ก.แรงงาน ร่วมประชุม ศปก.ศบค. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล

          วันที่ 4 มกราคม 2564 เวลา 08.30 น. นายไพโรจน์ โชติกเสถียร รองปลัดกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมประชุมศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล โดยมี พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ เป็นประธานการประชุม ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีการรายงานความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 โดยมีระเบียบวาระในประเด็น ดังนี้
     1.รายงานความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ภายในประเทศ
     2.การอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19
     3.การขับเคลื่อนมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19
     4.การเดินทางเข้าออกราชอาณาจักรทางอากาศ ทางน้ำ และทางบก และการเข้าพักในสถานที่กักกันของรัฐ
     5.การตรวจกิจการ/กิจกรรมให้เป็นไปตามมาตรการผ่อนคลาย
          พร้อมนี้ ที่ประชุม ศปก.ศบค. ได้มีการรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด – 19 ภายในประเทศ มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและกระจายทั่วภูมิภาคจึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น ดังนี้
     ขั้นที่ 1 จำกัดเวลาเปิด-ปิดสถานประกอบการ /ปิดสถานประกอบการที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด /ค้นหาและจับคุมกลุ่มบุคคลที่มั่วสุมทำผิดกฎหมาย /หลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก /ขอความร่วมมือไม่เดินทางข้ามจังหวัด /สถานศึกษาหยุดการเรียนการสอนหรือใช้รูปแบบออนไลน์ /ให้มีการทำงานแบบ Work From Home ทั่วทั้งพื้นที่ที่ ศบค. กำหนด /มีมาตรการควบคุมการเดินทางของบุคคลที่เดินทางจากพื้นที่เสี่ยงสูงสุด /เร่งการตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกและการสวบสวนโรคในพื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อและพื้นที่เชื่อมโยงที่ได้ข้อมูลจากการสอบสวนโรคของ สธ.
     ขั้นที่ 2 จำกัดเวลาเปิด-ปิดสถานประกอบการเพิ่มขึ้น /ปิดสถานประกอบการที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด /เพิ่มความเข้มข้นในการเร่งค้นหาและจับคุมกลุ่มบุคคลที่มั่วสุมทำผิดกฎหมาย /งดจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก /เพิ่มความเข้มข้นในมาตรการควบคุมการเดินทางข้ามจังหวัด /สถานศึกษายังคงหยุดการเรียนการสอนเว้นกิจกรรมที่มีความจำเป็น /เร่งรัดและเพิ่มการทำงานแบบ Work From Home อย่างเต็มขีดความสามารถ /เร่งรัดการตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกและการสวบสวนโรคในพื้นที่เสี่ยง กิจกรรม/กิจการที่เสี่ยง กลุ่มบุคคลที่เสี่ยง และจำกัดเวลาออกนอกเคหะสถาน ในพื้นที่ที่ ศปก.จังหวัด กำหนด และให้ปฏิบัติตามข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และโทรสารในราชการกระทรวงมหาดไทย ด่วนที่สุด ที่ มท.0234/ว7834 ลง. 30 ธ.ค. 63 อย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคในภาพรวม และกำชับข้อเน้นย้ำการขอความร่วมมือทุกภาคส่วนทั้ง ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเต็มขีดความสามารถตามมาตรการ D-M-H-T-T (D – Distancing เว้นระยะห่าง, M – Mask wearing สวมหน้าการอนามัยตลอดเวลา, H – Hand washing ล้างมือบ่อยๆ, T – Testing ตรวจวัดอุณหภูมิ / ตรวจหาเชื้อโควิด-19 , T – Taichana ติดตั้งและใช้แอปพลิเคชั่นไทยชนะและหมอชนะ)
          นอกจากนี้ นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ได้ชี้แจงทำความเข้าใจเหตุที่มาในการอนุญาตให้คนต่างด้าว 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) ที่เข้าเมืองผิดกฎหมายหรืออยู่เกินเวลาที่ได้รับอนุญาตอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อให้มารายงานตัวและขออนุญาตทำงานเป็นกรณีพิเศษ ให้ขึ้นทะเทียนแรงงานต่างด้าวเพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 และเพื่อให้กิจการดำเนินการต่อไปได้และให้แรงงานต่างด้าวทำงานกับนายจ้างเดิมไปพรางก่อน โดยในที่ประชุมได้ฝากประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงแรงงาน กรณีคนต่างด้าวที่ถูกดำเนินคดีหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมายที่กำลังจะพ้นโทษและจะต้องถูกผลักดันส่งกลับประเทศต้นทางจะสามารถนำมาแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานได้หรือไม่เพื่อนำมาพิจารณาต่อไป

+++++++++++++++++++++++++++

กองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์

4 มกราคม 2564