ผู้นำแรงงาน โต้!! รัฐเยียวยา ม33เรารักกันไม่ตกหล่น กรณีคืนเงินชราภาพอยู่ในขั้นตอนของ กม.

          นายมานิตย์ พรหมการีย์กุล ประธานสภาองค์การลูกจ้างยานยนต์แห่งประเทศไทย ยืนยัน โครงการ ม33เรารักกัน ที่ตนเป็นผู้บุกเบิกมาตั้งแต่ช่วงแรกแล้ว รัฐบาลและกระทรวงแรงงานเยียวยาจำนวนกว่า 9 ล้านคน ที่เหลือ 1 ล้านคนเป็นแรงงานต่างด้าว ส่วนอีก 1 ล้านคน คือ ผู้ประกันตนมาตรา 33 เป็นผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐซึ่งได้รับสิทธิเยียวยาจากโครงการเราชนะอยู่ก่อนแล้ว ไม่มีกลุ่มใดตกหล่นตามที่กล่าวอ้าง ส่วนกรณีที่จะให้นำเงินชราภาพมาใช้ก่อนนั้น ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนทำประชาพิจารณ์กฎหมายและจะนำเข้า ครม.เพื่อเห็นชอบ ต่อจากนั้นนำไปเข้าสภาผู้แทนราษฎร เมื่อผ่านสภาก็ได้แล้ว

          เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2564 นายมานิตย์ พรหมการีย์กุล ประธานสภาองค์การลูกจ้างยานยนต์แห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงกรณีที่ นายวสันต์ ประจิตร ผู้ก่อตั้งกลุ่มผู้ใช้แรงงานและผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม และกลุ่มขอคืนไม่ใช่ขอทานเงินสมทบชราภาพ ได้ออกมาเผยว่า โครงการ ม33เรารักกันมีผู้ประกันตนตกหล่นและที่ไม่ได้รับสิทธิกว่า 2 ล้านคน รวมทั้งเรียกร้องให้นำเงินสมทบชราภาพเอามาเยียวยาผู้ประกันตนก่อน และการแก้ไขกฎหมายยังไม่มีความคืบหน้านั้น ในเรื่องนี้ ตัวเลข 2 ล้านคนนั้น รัฐบาลและกระทรวงแรงงาน ได้ช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา 33 ตามโครงการ ม33เรารักกัน ให้ได้รับสิทธิจำนวนกว่า 9 ล้านคน ซึ่งแรงงานจำนวนประมาณ 1 ล้านคนเป็นแรงงานต่างด้าว ส่วนอีก 1 ล้านคน คือ ผู้ประกันตนมาตรา 33 เป็นผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐซึ่งได้รับสิทธิเยียวยาจากโครงการเราชนะอยู่ก่อนแล้ว ไม่มีกลุ่มใดตกหล่นตามที่กล่าวอ้าง ส่วนกรณีที่จะให้นำเงินชราภาพมาใช้ก่อนนั้น ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนทำประชาพิจารณ์กฎหมายและจะนำเข้า ครม.เพื่อเห็นชอบ ต่อจากนั้นนำไปเข้าสภาผู้แทนราษฎร เมื่อผ่านสภาก็ได้แล้ว

          ด้าน นายชาญศิลป์ ทรัพย์โนนหวาย ประธานกลุ่มแรงงานเพื่อสังคม กล่าวว่า โครงการม33เรารักกันที่จริงไม่ได้ตกหล่นไป 2 ล้านคน เพราะตัวเลขผู้ประกันตนจริงๆ ที่เป็นมาตรา 33 ประมาณ 11 ล้านคน ได้สิทธิจริงประมาณ 9 ล้านคน ส่วนอีก 2 ล้านคนที่ไม่ได้รับสิทธิเป็นแรงงานต่างด้าวและเป็นลูกจ้างที่เคยมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐก่อนที่จะเข้าเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ประมาณ 9 แสนกว่าคน ซึ่งคนพวกนี้เขาได้สิทธิจากโครงการอื่นอยู่แล้ว จึงไม่ได้รับตรงนี้ โดยส่วนตัวมองว่าที่ว่าตกหล่น 2 ล้านคนคงไม่น่าจะเป็นไปได้ ในส่วนกรณีเงินชราภาพก็ดำเนินการไปตามไทม์ไลน์ของมัน  เป็นกระบวนการที่ผมมองว่ารวดเร็วสุดแล้วนะ ในการที่เราจะแก้กฎหมายให้เพื่อเกิดประโยชน์กับผู้ประกันตนในระยะยาว ซึ่งเป็นมรดกตกไปถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน ส่วนในระยะสั้นที่จะให้กู้เงินจากสถาบันการเงิน ยังไม่ได้มีการเรียกประชุมแจ้งความคืบหน้า ซึ่งตัวเลขผู้ที่เดือดร้อนจริงๆ ที่ต้องการนำเงินมาใช้ก่อนล่วงหน้ามีจำนวนไม่มาก

          ทั้งนี้ แหล่งข้อมูลระบุว่า นายวสันต์ ประจิตร เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 และเจ้าตัวได้รับสิทธิโครงการ ม33เรารักกันไปเรียบร้อยแล้วเช่นกัน

+++++++++++++++++++

กองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์

9 พฤษภาคม 2564