Skip to main content

‘รมว.สุชาติ’ มอบที่ปรึกษาฯ คอนเฟอเรนซ์ติดตามความคืบหน้าตรวจคัดกรองลูกจ้างหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุกในสถานประกอบการ จ.สมุทรสาคร

รายละเอียดเนื้อหา

          นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ประชุมคอนเฟอเรนซ์ร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อติดตามความคืบหน้าการบูรณาการตรวจคัดกรองลูกจ้างเชิงรุกในสถานประกอบการเพื่อหาเชื้อโควิด -19 เข้าสู่กระบวนการรักษาตามขั้นตอนของกระทรวงสาธารณสุข

          เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2564 เวลา 16.00 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมผ่านระบบทางไกล (Video Conference) กับหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ณ ห้องประชุมแสงสิงแก้ว ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน โดยมี นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงานเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย โดยที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีการระบาดใหม่อย่างรวดเร็วในขณะนี้ รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และกระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มีความห่วงใยพี่น้องแรงงานและประชาชนทุกกลุ่ม และมีการสั่งการและดำเนินการตามมาตรการมาอย่างต่อเนื่อง  จึงได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานบูรณาการกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในพื้นที่บูรณาการทำงานเชิงรุก เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวให้มีการจำกัดอยู่ในพื้นที่ไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดในวงกว้าง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศทั้งทางตรงและทางอ้อม ตลอดจนสุขภาวะของประชาชนทั่วประเทศ

          นางธิวัลรัตน์ กล่าวต่อว่า กระทรวงแรงงาน ได้ดำเนินการเชิงรุก เพื่อบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข โรงพยาบาลในเครือข่ายสำนักงานประกันสังคมเข้าไปยังสถานประกอบการเพื่อตรวจคัดกรองแรงงานแบบ PCR ให้ลูกจ้างที่เข้าข่ายกลุ่มเสี่ยงต่อการสัมผัสเชื้อได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้แก่แรงงานในสถานประกอบการพื้นที่ควบคุมสูงสุด โดยลูกจ้างที่เข้ารับการตรวจจะทราบผลภายใน 6-8 ชั่วโมง ซึ่งหากพบเชื้อจะต้องเข้าสู่กระบวนการดูแลรักษาตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดต่อไป

          สำหรับการประชุมวันนี้ เพื่อติดตามการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และรับทราบผลการดำเนินการศูนย์ประสานงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงแรงาน (ศบค.รง.) ซึ่งจังหวัดสมุทรสาคร มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ในสถานประกอบการ จำนวน 80 ราย ผู้ติดเชื้อสะสม จำนวน 3,341 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 10 มกราคม 2564) และมีการตรวจสถานประกอบการ 33 แห่ง และลูกจ้าง 53,451 ราย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด – 19 ตามมาตรการสาธารณสุข สถานประกอบการมีความพร้อมในการจัดเตรียมสถานที่กักตัวลูกจ้างที่ติดเชื้อโควิด- 19 ในสถานประกอบการ ตามมาตรฐานสาธารณสุข สามารถรองรับลูกจ้างได้เพียงบางส่วน จำนวน 1,800 ราย 6 แห่ง ทั้งนี้ สถานประกอบการที่ปิดเป็นการชั่วคราวตามคำสั่งของภาครัฐ จำนวน 352 แห่ง รวมจำนวนลูกจ้าง 5,194 ราย จำแนกเป็นแรงงานไทย จำนวน 5,118 ราย และแรงงานต่างด้าว(เมียนมา) 76 ราย

          “กระทรวงแรงงาน ได้ออกกฎกระทรวงการได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานเนื่องจากมีเหตุสุดวิสัย อันเกิดจากโรคระบาดของโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ พ.ศ.2563 ในกรณีมีเหตุสุดวิสัยที่ทำให้ลูกจ้างซึ่งเป็นผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานไม่ได้ทำงานหรือนายจ้างไม่ให้ทำงาน เนื่องจากนายจ้างต้องหยุดประกอบกิจการไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน เนื่องจากทางราชการมีคำสั่งให้ปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่ออันตราย และลูกจ้างไม่ได้ค่าจ้างในระหว่างนั้นให้ลูกจ้างมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างรายวัน ตลอดระยะเวลาที่มีการกักตัวหรือเฝ้าระวังการระบาดของโรคหรือมีคำสั่งปิดสถานที่ดังกล่าว แล้วแต่กรณี แต่รวมกันไม่เกิน 90 วันเพื่อช่วยเหลือนายจ้าง และผู้ประกันตนที่ยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของนายจ้าง และผู้ประกันตน” นางธิวัลรัตน์ กล่าวในตอนท้าย

++++++++++++++++

กองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์

11 มกราคม 2564

TOP