Skip to main content

สื่อท้องถิ่น (https://www.saipantribune.com/index.php/) รายงานทางการเครือรัฐหมู่เกาะมาเรียน่าเหนือฯ ประกาศลดระดับความเสี่ยงของสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่จากเดิมสีฟ้าเป็นสีเขียว

รายละเอียดเนื้อหา

สื่อท้องถิ่น (https://www.saipantribune.com/index.php/) รายงานว่า ตั้งแต่วันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๖๔ ทางการเครือรัฐหมู่เกาะมาเรียน่าเหนือประกาศลดระดับความเสี่ยงของสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่จากเดิมสีฟ้าป็นสีเขียว (รหัสสีที่แสดงถึงความปลอดภัยจากน้อยที่สุดถึงมากที่สุดเริ่มจากสีแสีส้ม สีเหลือง สีฟ้า และเขียว) ความเสี่ยงที่ลดลงขึ้นอยู่กับอัตราการฉีดวัคซีนของประชาชนที่กำหนดไว้อย่างน้อยร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป ซึ่งปัจจุบันผู้ที่ฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้วคิดเป็นร้อยละ ๖๐.๑ และผู้ติดเชื้อมีจำนวน ๑๘๓ รายหรือคิดเป็นร้อยละ ๐.๑ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค Commonwealth Healthcare Corp.(CHCC) และคณะทำงานเฉพาะกิจด้านโควิด-19 ได้ออกแนวทางเกี่ยวกับการสวมหน้ากากอนามัย การฉีดวัคซีน การใช้พื้นที่ในอาคาร รวมถึงข้อกำหนดอื่นๆ ดังนี้      

     ๑) ขณะที่ยังไม่มีข้อกำหนดเกี่ยวกับการสวมหรือไม่สวมหน้ากากอนามัย ยังคงเน้นย้ำให้ประชาชนให้ความสำคัญของมาตรการ 3W ได้แก่ wearing a mask (การสวมหน้ากากอนามัย) washing hands และ watching your distance (การระวังระยะห่าง) กรณีที่ฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้ว ยังคงต้องสวมหน้ากากอนามัยในสถานที่ที่ภาครัฐกำหนด ข้อจำกัดบางประการยังคงมีอยู่จนกว่าเครือรัฐหมู่เกาะมาเรียน่าเหนือฯ จะมีภูมิคุ้มกันกลุ่มถึงร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป

     ๒) ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบถ้วนสามารถเข้าร่วมกิจกรรมในที่ร่มและกลางแจ้งได้ตามแนวทางของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค

     ๓) ผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน ให้ระมัดระวังและสวมหน้ากากอนามัยและเว้นระยะห่างทางสังคมตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่ร่วมกับผู้อื่นที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนและผู้ที่ไม่สามารถยืนยันการฉีดวัคซีนได้

     ๔) หน่วยงานทั้งหมดได้รับอนุญาตให้มีผู้ใช้บริการได้ ๑๐๐ % หากสามารถตรวจสอบการฉีดวัคซีนได้ และกรณีที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ อนุญาตให้มีผู้ใช้บริการได้ ๗๕ % โดยให้ใช้มาตรการการรักษาระยะห่างทางสังคมและสวมหน้ากากอนามัยเมื่อไม่มีการยืนยันการฉีดวัคซีนหรือผู้ใช้บริการมาจากคนละครอบครัว

๕) กิจกรรมในชุมชนยังคงอยู่ภายใต้มาตรการการเว้นระยะห่างทางสังคมที่เข้มงวด และลดจำนวนผู้ใช้บริการหากไม่สามารถตรวจสอบการฉีดวัคซีนได้

 ๖) อนุญาตให้มีการรวมตัวในที่ร่มได้ไม่เกิน ๑๕๐ คน หากไม่สามารถตรวจสอบการฉีดวัคซีนได้

 ๗) อนุญาตให้มีการชุมนุมในที่ร่มและที่กลางแจ้งของผู้ที่ฉีดวัคซีนครบถ้วนได้ ๑๐๐ % ทั่วทั้งเครือจักรภพ หากสามารถตรวจสอบการฉีดวัคซีนได้

TOP