หน้าหลัก › Forums › สวัสดิการแรงงาน › นายจ้างลดเงินเดือนและเวลาทำงาน
Tagged: #293771 #359006
สวัสดีค่ะ รบกวนสอบถามค่ะ เนื่องจากสถานการณ์โควิดในปัจจุบัน ทำให้ตอนนี้บริษัทมีนโยบายออกมาทั้งการเลิกจ้างและลดเงินเดือนพนักงานประมาณ 15-25% โดยในส่วนของการลดเงินเดือนนั้นทางบริษัทแจ้งว่าหากเซ็นหรือไม่เซ็นเอกสารก็จะต้องถูกลดตามนโยบายอยู่ดี ถ้าเกิดว่าพนักงานไม่เซ็นเอกสารบริษัทก็ยังลดเงินเดือนของพนักงานและจะไม่มีการจ่ายค่าชดเชยการเลิกจ้าง ตรงนี้พนักงานสามารถทำอะไรได้บ้างคะ
ขอบคุณค่ะ
เรียน คุณ Lil.BB
ท่านสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลกับกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรง ทางสายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 3 กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรง หรือโทรศัพท์สายด่วน 1546 หรือสอบถามหมายเลขโทรศัพท์ของสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด/กรุงเทพฯ ได้จากเว็บไซต์กรม (www.labour.go.th) เมนู ติดต่อกรม เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่หรือจังหวัดที่ท่านอาศัยอยู่ (ในวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 8.30 – 16.30 น.) และกรณีประสงค์ต้องการร้องเรียนสามารถยื่นคำร้องออนไลน์ (24 ชม.) ได้ทาง https://eservice.labour.go.th ครับ
คือว่าผมได้สมัครงานในตำแหน่งวิศวกรฯแล้วได้ตกลงเงินเดือนที่ 30,000บาท/เดือน และค่าที่พัก 3,000บาท/เดือน ซึ่งผมเริ่มทำงานในวันที่ 15 มิ.ย. 2564 แล้วก็ได้รับเงินเดือนแรก15,000บาทและค่าที่พัก 3,000บาท ทางนายจ้างบอกว่าทำครึ่งเดือนได้ครึ่งผมบอกว่าเข้าใจและยอมรับในจุดนี้ เดือนต่อมาได้รับเงินเดือนแค่15,000บาทและค่าที่พัก 3,000บาท เพราะทางนายจ้างบอกว่างานยังไม่คืบหน้าติดเรื่องเอกสารที่ยังไม่เรียบร้อยซึ่งผมก็เข้าใจและยอมรับในจุดนี้(ถึงแม้ว่าตัวเองจะไม่ใช่เหตุให้ล่าช้าเลย)เพราะคิดว่าจะร่วมงานด้วยกันต้องช่วยเหลือกันในยามทุกข์ เดือนต่อมาได้รับเงินเดือน 30,000บาท และค่าที่พัก 3,000บาท เต็มจำนวน แล้วต่อมาในวันที่ 16 ก.ย. 2564 ผมได้ส่งรายการสั่งเหล็กเสริมที่ต้องเพิ่มเติมเข้าหน้างาน ซึ่งผมได้ถอดจากรายการBarcutที่ผมได้คำนวนไว้แล้วทีนี้ทางออฟฟิสก็ได้โทรมาถามว่าทำไมรายการที่ผมส่งตอนแรกไม่ตรงกับที่ผมขอในรอบนี้ จึงมีการเพิ่มเติมด้วย ผมอธิบายว่ารายการตอนแรกมันเป็นแค่การถอดแบบคร่าวๆแต่รายการที่เพิ่มเติมนี้คือการถอดที่ละเอียดขึ้นซึ่งคิดมาจากว่าเราจะต้องใช้เหล็กยาวเท่าไหร่?ตัดกี่ท่อน?แล้วจะมีเศษเท่าไหร่?ซึ่งมันเป็นธรรมดาในการก่อสร้างที่จะต้องมีการเพิ่มเติมในจุดนี้ครับ แล้วต่อมานายจ้างก็โทรมาบอกผมว่าต่อไปนี้จะลดเงินเดือนจากที่ตกลงคือ 30,000 เหลือ 20,000 บาท/เดือน ผมก็ขอเหตุผลว่าผมทำผิดอะไร?เขาให้เหตุผลว่าเพราะผมอธิบายให้ออฟฟิสไม่เข้าใจแล้วก็บอกว่าจะเอาในส่วนนี้ไปจ้างโฟร์แมนมาช่วยงาน(ซึ่งในจุดนี้ผมบอกตั้งแต่แรกแล้วว่าต้องมีโฟร์แมนมาช่วย แต่ก็ไม่น่าจะหักในส่วนเงินเดือนผมไป) ผมก็ขอความเห็นใจว่า 2เดือนแรกผมก็รับแค่ครึ่งเดียวแล้วเห็นใจผมหน่อยครับ แต่กลับไม่ได้รับความเห็นใจเลย ผมก็คิดว่าอดทนสู้ๆไปเดี๋ยวผลงานดีเขายังจะเห็นใจและที่สำคัญในยุคโควิดนี้มีงานทำไว้ก่อนถึงจะได้น้อยแต่ก็ดีกว่าไม่ได้ ผมก็ต้องทนยอมรับไป แต่พอถึงวันที่เงินเดือนออก ในวันที่ 6 ต.ค. 2564 เงินเข้าอยู่ที่19,405 บาท ผมก็เอะใจว่าทำไม่ได้แค่นี้ คือเข้าใจในการหักภาษีหรือหักค่าโน้นค่านี้แต่ผมคิดแล้วก็ไม่น่าจะเหลือแค่นี้เพราะผมมีรายการส่งตั้งเบิกที่ผมได้สำรองจ่ายหน้างานไปด้วย ผมจึงขอใบสำคัญจ่ายว่ามีรายการอะไรบ้าง?ซึ่งผมเห็นว่าได้รับเเงินเดือนอยู่ที่ 17,000 บาทและค่าที่พัก 3,000 บาท ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจเลยโทรถามเหตุผลกับทางออฟฟิสก่อนเขาก็ตอบไม่ได้ให้โทรถามเจ้านายเลย ผมก็โทรถามซึ่งทางนายจ้างพูดแค่ว่ารับแค่นี้ไปก่อนแล้วค่อยคุยกัน คือในจุดนี้ผมไม่มั่นใจในเงินเดือนของตัวเองเลย ไม่รู้ว่าเดือนต่อไปจะทำงานฟรีรึป่าวก็ไม่รู้ ทำไมมันพลิกไปพลิกมา ลดลงตามใจโดยไม่ได้มีเหตุผลที่สมควรเลย ซึ่งผมก็ผิดพลาดเองที่ไม่ได้เซนต์สัญญางานเป็นหลักฐานแค่คุยปากเปล่าเพราะผมเชื่อใจและอยากทำงานมาก ซึ่งผมตั้งใจมุ่งมั่นและทุ่มเทกับงานนี้มากเพราะเป็นงานใกล้บ้านเกิดตัวเองและผมตกงานมาตั้งแต่ต้นปี 64 เลยอยากจะทำให้งานนี้ออกมาดีที่สุด ซึ่งตั้งแต่เปิดไซต์งานมานั้นผมก็ทำคนเดียวทั้งหมดไม่มีบุคลากรคนอื่นมาช่วย(ผมหมายถึงDCบริษัท มีแต่ผู้รับเหมางานย่อย) หน้างานต้องการใช้อะไรผมก็supportเต็มที่สำรองจ่ายเงินตัวเองก่อน ผมรู้สึกไม่เป็นธรรมมากๆจึงอยากจะขอคำปรึกษาและร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับผมด้วยครับ
สอบถามค่ะทำงานมาเข้าปีที่ 10 ปัจจุบันทำงานไม่ได้ตามที่นายจ้างคาดหวัง กรณีนายจ้างขอความร่วมมือจากลูกจ้างปรับลดเงินเดือน
เดิมได้รับเงินเดือนๆละ 28,500 เหลือ 26,500 และล่าสุดแจ้งว่าให้ออกโดยที่ไม่ชดเชยใดๆเลย
มาจาการทำงานที่ตกหล่นและความสามารถในการทำงานลดลงเนื่องจากอายุมากขึ้นและมีโรคประจำตัว
นายจ้างบอกล่วงหน้า 1 เดือน ไม่มีการชดเชย แต่ทางบริษัทฯจะยื่นเลิกจ้างกับทางประกันสังคมให้
แบบนี้เราสามารถทำอย่างไรได้บ้างคะ
นายจ้างขอความร่วมมือให้หยุดงานเดือนละ 7 วัน แล้วก็หักเงินเดือน โดยอ้างว่าสถานะการโควิดมาเป็นเวลา 2 ปีแล้ว
การหยุดงานนี้ก็ไม่ให้หยุดทุกคน เลือกหยุดบ้างแผนก เนื่องจากร้านยังเปิดยังขายของได้ รายได้ในร้านก็ยังดีอยู่
แล้วทางร้านอ้างว่ารายได้ไม่ดีเลยให้หยุดงาน
จึงอยากจะถามว่า ทำแบบนี้ผิดไหมค่ะ เราสามารถเรียกร้องความเป็นธรรมได้ไหม
สอบถามนีสครับ ตั้งแต่กลางปีมาถึงสิ้นปี ยังได้รับเงินเดือน75% ยังไม่ครบ100%สักที
ปกติคือทำห้าวัน พอมาตอนนี้ เห็นว่าให้ทำวันเสาร์ด้วย เวลาปกติ08:00-17:30น.
เรียน คุณตะวัน คุณnew123456 และคุณPullop
ท่านสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลกับเจ้าหน้าที่กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรง ทางสายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 3 กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรง หรือโทรศัพท์สายด่วน 1546 หรือสอบถามหมายเลขโทรศัพท์ของสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด/กรุงเทพฯ ได้จากเว็บไซต์กรม (www.labour.go.th) เมนู ติดต่อกรม เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่หรือจังหวัดที่ท่านอาศัยอยู่ (ในวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 8.30 – 16.30 น.) และกรณีประสงค์ต้องการร้องเรียนสามารถยื่นคำร้องออนไลน์ (24 ชม.) ได้ทาง https://eservice.labour.go.th ครับ
ตอนแรกผมทำงานกับบริษัทครับ ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นเฟรนไชน์ เดือนแรกเค้าให้เงินเดือน ค่าคอม เรทเดียวกับบริษัท เดือนต่อมาประมาณกลางเดือน(ของรอบที่จะคิดเงินเดือน) เค้าแจ้งว่าจะลดค่าคอม โดยเค้าบอกว่า ถ้าไม่ไหวจะลาออกก็ได้ ผมคำนวณแล้วว่าไม่สามารถอยู่ได้จึงลาออก หลังจากนั้นเค้าจะคิดค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับบริษัทเค้าเนื่องจากพวกผมลาออกจึงทำให้เค้าต้องจ้างพาร์ทไทม์ แบบนี้ผมสามารถทำอะไรได้บ้างไหมครับ อย่างเช่น ร้องเรียนในกรณีที่เค้าเปลี่ยนอัตราค่าจ้างโดยไม่แจ้งล่วงหน้าได้ไหมครับ
เรียนคุณ killer 264157
ท่านสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลกับเจ้าหน้าที่กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรง ทางสายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 3 กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรง หรือโทรศัพท์สายด่วน 1546 หรือสอบถามหมายเลขโทรศัพท์ของสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด/กรุงเทพฯ ได้จากเว็บไซต์กรม (www.labour.go.th) เมนู ติดต่อกรม เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่หรือจังหวัดที่ท่านอาศัยอยู่ (ในวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 8.30 – 16.30 น.) และกรณีประสงค์ต้องการร้องเรียนสามารถยื่นคำร้องออนไลน์ (24 ชม.) ได้ทาง https://eservice.labour.go.th ครับ
ขอสอบถามค่ะ เดิมเวลาทำงาน จ-ศ.หยุด เสาร์-อาทิตย์ ได้โอทีถ้ามาทำงานวันเสาร์ แต่นายจ้างจะปรับเป็นทำงาน จ-ส. ก็จะไม่ได้โอทีวันเสาร์แล้ว ขอถามว่าถ้าปรับวันทำงาน จ-ส.แล้วต้องปรับเงินเดือนเพิ่มขึ้นให้เราด้วยไหมค่ะ แล้วการปรับเงินเดือนจะคิดแบบยังไงค่ะ.ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
การกำหนดวันทำงานเพิ่มขึ้น ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างในทางที่ไม่เป็นคุณต่อลูกจ้างตามมาตรา ๒๐ แห่งพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๘ จะกระทำได้โดยได้รับความยินยอมจากลูกจ้าง หรือมิฉะนั้นบริษัทฯ จะต้องแจ้งข้อเรียกร้องต่อลูกจ้างตามกระบวนการที่พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๘ บัญญัติไว้ หากนายจ้างเปลี่ยนแปลงโดยไม่ได้ขอความยินยอมจากลูกจ้าง ท่านสามารถร้องเรียนต่อพนักงานตรวจแรงงาน สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานพื้นที่/จังหวัดที่ท่านทำงาน หรือยื่นผ่านทางออนไลน์ได้ที่ https://s97.labour.go.th/pub_request/ContactForm.php
ปัจจุบันทำงานกับบริษัทมากว่า 3 ปี โดยปีนี้ทางบริษัทได้ทำการประเมินโดยผลการประเมินบอกว่าจะให้เราโดนลดตำแหน่งและเงินค่าตำแหน่ง เพราะทางผู้บริหารได้แต่งตั้งพนักงานคนใหม่ทำหน้าที่แทนเรา
ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยทำผิดทางวินัย และไม่มีการวัดผลงานออกมาเป็นรูปธรรม ไม่ตรงกับ KPI แต่พยายามพูดให้เรารู้สึกว่าที่ผ่านมาเรายังทำงานไม่ถึงจุดที่เค้าตั้งไว้
ตอนนี้ยังไม่มีอะไรเป็นรายลักษณ์อักษร กรณีนี้บริษัททำผิดกฎหมายหรือเปล่าคะ สามารถฟ้องร้องได้ไหมคะ
ดิฉันขอสอบถามเรื่องลดเงินเดือนไม่เป็นธรรม เดิมการรับเข้าทำงานของบริษัทดิฉันทำงานอยู่ ตกลงเรื่องอัตราเงินเดือนและวันทำงานเรียบร้อย เห็นชอบทั้ง 2 ฝ่าย โดยตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้จัดการ หลังจากนั้นไม่กี่วัน ได้รับแจ้งว่า มีการรับพนักงานอีกท่าน มาเป็นหัวหน้าดิฉัน ซึ่งดิฉันก้อยินดี ซึ่งในระหว่างก่อนวันปฎิบัติงาน ดิฉันเข้ามา Hand over งานจากพนักงานคนเก่า
และการเข้าทำงานตามสัญญาก้อเริ่มขึ้น ดิฉันและหัวหน้าใหม่ทำงานร่วมกันด้วยดี จากนั้นไม่นานเจ้าของบริษัท เรียกหัวหน้าดิฉันเข้าไปคุย เพื่ออยากลดเงินเดือนของดิฉัน จากเดิม 5000 บาท ซึ่งหัวหน้าดิฉันก้อลำบากใจเพราะเค่าไม่ใช่คนตกลงในการรับดิฉันตั้งแต่แรก
แต่เจ้าของยืนยันให้ลดเงินเดือนโดยมีให้เลือกว่า
1.ลด 5000 บาทและทำงานตลอดไป
2. ให้เงินเดือนตามตกลงเดิม แต่จ้างแค่ 3 เดือน
ซึ่งดิฉันคิดว่าไม่เป็นธรรมแก่ดิฉัน ดิฉันไม่ได้ทำอะไรผิดในเรื่องของกฏหรือระเบียบก่รทำงาน
ประเด็นคือ เดิมทางเจ้าของบริษัทจะจ้างเพียงดิฉันคนเดียว นั่นหมายถึงการลดงบประมาณจากเดิมไปเยอะ ก่อนนี้แผนกนี้มีพนักงาน 2 คน แล้ว พนักงานทั้งสองนั้นลาออก
จึงเห็นชอบจ้างดิฉันเพียงคนเดียว แต่เกิดมีการจ้างอีกคนนึงซึ่งอาจะมีการฝากมาหรือเหตุผลใดไม่ทราบ จ้างมาเพิ่มอีกคน ซึ่งเงินเดือนรวมกันแล้ว 2 คน เยอะกว่่า 2 คนเดิมที่เคยจ้าง
จึงคิดว่าต้องการจะลดเงินเดือนของดิฉัน
ดิฉันไม่มีทางออกทีาดีเลย ลาออกจากที่เก่ามา แล้วมาทำที่นี่แล้วโดนลดเงินเดือน
ดืฉันขอคำแนะนำจากกรมแรงงาน หากดิฉันจะฟ้องเรื่องความไม่เป็นธรรมตรงนี้
ดิฉันควรปฏิบัติอย่างไร
ขอความกรุณาแนะแนวทางให้ด้วยนะคะ ดิฉันไม่สบายใจและรฟุ้สึกถูกเอาเปรียบค่ะ
ขอขอบคุณล่วงหน้านะคะ
เรียน คุณ tewpty
การปรับลดค่าจ้างเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างที่ไม่เป็นคุณแก่ลูกจ้าง ดังนั้น หากลูกจ้างไม่ยินยอม นายจ้างไม่สามารถกระทำได้ ทั้งนี้ หากท่านไม่ได้รับความเป็นธรรม ท่านสามารถยื่นคำร้องเพื่อรับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ
ต่อพนักงานตรวจแรงงานที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้ดังนี้
1) สายด่วน 1506 กด 3
2) สายด่วน 1546
3) สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด/พื้นที่ที่ท่านทำงานอยู่/ในเขตภูมิลำเนาของท่าน
สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10
https://www.labour.go.th/index.php/contact/contact-m1
สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด
https://www.labour.go.th/index.php/contact/contact-m2 หรือ
4) สามารถยื่นออนไลน์ผ่านระบบ e-service (ยื่นคำร้อง คร.7) ได้ที่ http://eservice.labour.go.th (24 ชั่วโมง)
สวัสดีค่ะ
ขอสอบถามข้อมูลค่ะ
ขอชี้แจงก่อนว่า ได้เริ่มเข้างาน พศ.2562 ได้รับเงินเดือน เดือน ละ 28,000 บาท (ทางด้านบัญชี – ปิดงบ) ผ่านโปรไม่ได้ปรับเงินเพิ่ม เนื่องจากว่าเงินเดือนสูง ขอเป็น ครบ 1 ปี ถึงจะเพิ่มเงินเดือนขึ้น ผ่านมาได้ 5 เดือน บริษัท ได้เปิด บริษัทใหม่ในเครือ ซึ่งเราได้เป็นคนดูแลตั้งแต่ เริ่มเปิดกิจการ จัดซื้อ รับสินค้า สต๊อก ทำจ่าย เปิดบิลขาย รับเงิน คือพูดได้หมด ว่าทำคนเดียวทั้งระบบ กระทำแบบนี้มาโดยตลอด จนเมื่อ เดือน กย.63 เกิดอุบัติต้องหยุดพักรักษาตัว ประมาณ 66 วัน (18/9/63-23/11/63) เงินเดือน ในเดือน กย.63 ได้ปกติ ตค.63ก็ได้ปกติ แต่ในเดือน พย.63 ได้ ตั้งแต่วันที่มาทำงาน ที่บริษัท คือ 24/11/63-30/11/63 7 วัน (กับภาระหนี้สิ้น และความรับผิดชอบครอบครัว) ซึ่งในระหว่างที่หยุดพักรักษาตัว ตั้งแต่วันที่ 27/9/63-23/11/63 ได้ทำงานที่บ้าน โดยรีโมท เข้ามาทำงาน แก้ไข และกระทบกับ สนง.บัญชี โดยไม่เกิดปัญหา แต่….ปัญหานี้เกิด ตอนกับมาทำงาน เจ้านาย ตามงบเดือน ปิดทุกเดือน ในระหว่างที่หยุดพัก มี พี่คนนึงรับทำงานแทน ในบางส่วน แต่ไม่ยอมทำงบส่งเจ้านาย เจ้านายเลยมาทวงกับเรา ซึ่งเพิ่งกับมาทำงาน เฝือก ยังใส่ ไม่เท้ายังมี มาทำงาน แต่ก็เคลียงานให้เจ้านายดูทัน เนื่องจาก ต้องปิดงบประจำปี จำเป็นต้องทำก่อน (ที่เจ้านายตามคืองบเดือน 3 เดือน ที่หยุดไป) เหตุนี้ จึงทำให้ มีหนังสือแจ้งขอปรับลดเงินเดือน ให้เหตุผลว่า ไม่สามารถดำเนินงานตามที่รับมอบหมายตั้งแต่ตอนมาสมัครงาน บริษัท จึงพิจารณาลดเงินเดือน 8 พัน บาท (เหลือแค่ 20,000 บาท จริง ๆ เหรอ ในเมื่อเราไม่มีศักยภาพในการทำงาน ซึ่งเราก็เซ็นต์ชื่อรับทราบใน จม.ปรับลดน่ะ พร้อมกับเขียนใบลาออก ต่อทันที เหตุผลคือ เงินเดือนไม่พอใช้ เนื่องถูกลดเงินเดือน) ทางหัวหน้า ก็พูดว่า ทำไปก่อน เราลูกเล็ก เจ้านายเขาไม่เห็นเราก็ทำให้เขาเห็น ซึ่งเราเขียน ในเดือน มค.64 เพราะเงินเดือนจะถูกลด ตั้งแต่ วันที่ 1/2/64 ในใบลาออก ระบุว่า จะทำงานให้ถึง วันที่สิ้นเดือน กพ.64 และในระหว่างนี้ ก็หาพนักงานมาทำแทนเรา ทั้งหมด 3 คน ไม่มีใครอยู่ถึงผ่านโปรสักคนนึง 1-2 ยังไม่เข้า เดือน 3 ก็ออกกันหมด ทุกครั้งที่ออก เราเองที่จะต้องกับไปดูแลรับผิดชอบจนกว่าจะมีคนมาทำแทน แต่เงินเดือนที่ลดไปล่ะค่ะ ทำไมถึงไม่คืน ) คนไม่มีศักยภาพ ณ.ตอนนี้ เวลาครบมารอบ 1 ปี ที่ถูกลด แต่งานที่มันเพิ่มขึ้น ประสบการณ์ ทำงานมาเป็น 10 ปี ปิดงบชนกับ สนง.บัญชี ได้รับค่าแรง 20,000 บาท เท่ากับเจ้าหน้าทำจ่าย (การเงิน) น้อยกว่า จัดซื้อเสียอีก
เลยจะมาขอปรึกษาค่ะ ว่าจะทำไงดีค่ะ เพราะแบกรับภาระหนี้ไม่ไหวแล้วค่ะ (เงินที่ลด ไป ทุกเดือน เดือนละ 8 พัน ทำให้เราต้องมีหนี้เพิ่มขึ้น เดือนละ 8,000-10,000 บาท)
ในเงินเดือน ซึ่ง ค่าาใช้จ่ายทุกอย่าง ก็ 20,000 บาท ภายในบ้าน เหลือ เหลือ 5-7 พันบาท นมลูก แพมเพิส ยา ของลูกอีก แทบจะไม่พออยู่แล้ว แล้วเหลือแค่ 20,000 บาท จะเป็นยังไงค่ะ
หนี้ ร้อยละ 20 ก็มาค่ะ จะหาทางแก้ไขปัญหานี้ ได้ยังไงดีค่ะ จะพูดหรือ ทำแบบไหน ที่เงินเดือนจะกับไปเท่าเดิม หรือควรเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม เพราะ ยังไม่เคยได้ปรับเมื่อครบปี แถมถูกลดเงินเดือน จน ครบปี บอกจะเพิ่มให้หลังจากที่โดนหัก 3-5 เดือน แต่ตอนนี้ ยังไม่เคย มีแต่หัก กับหัก
ฝากด้วยค่ะ ช่วยชี้แนะ แนวทางให้หน่อยค่ะ