รมว.แรงงาน ลงพื้นที่อุดรธานี พบปะเครือข่ายแรงงานนอกระบบ ผู้สูงอายุ อาสาสมัครแรงงาน พัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานในพื้นที่ ฝึกอาชีพ ให้มีงานทำ มีรายได้ ขยายหลักประกันความมั่นคง ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ตั้งเป้าปี 61 นำร่องฝึกอาชีพทั่วประเทศให้ได้ 1 ล้านคน
พลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมเครือข่ายภาคประชาชน (อสร.) และกลุ่มแรงงานไทยที่ไปทำงานต่างประเทศ ว่า การประชุมวันนี้ เพื่อติดตามงานด้านแรงงานตามยุทธศาสตร์ของรัฐบาล ขอชื่นชมจังหวัดอุดรธานีในการขับเคลื่อนงานด้านแรงงานซึ่งสามารถเป็นต้นแบบให้กับจังหวัดอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี ด้วยความร่วมมือของทุกส่วนราชการทำงานจนเป็นที่ประจักษ์ว่า จังหวัดอุดรธานีมีอัตราการว่างงานน้อยที่สุด คนมีงานทำในพื้นที่มากขึ้นร้อยละ 6.1 มีสถานประกอบกิจการมากขึ้นร้อยละ 5.2 และมีคนไปทำงานต่างประเทศมากที่สุดของประเทศไทยก็ว่าได้ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดี สามารถมีเงินเข้าประเทศปีที่แล้วกว่า 1 แสนล้านบาท นอกจากนี้ นายจ้างในต่างประเทศยังได้ชื่นชมคนที่ไปทำงานในต่างประเทศว่า คนงานไทยเป็นคนขยัน อดทน มีความประพฤติดี ซึ่งกระทรวงแรงงานจะส่งเสริมในเรื่องการฝึกอบรมก่อนไปทำงาน และการประสานกับประเทศปลายทางเพื่อให้การคุ้มครองแรงงานไทยที่ไปทำงานต่างประเทศ
พลเอก ศิริชัย กล่าวต่อว่า กระทรวงแรงงานยังสนับสนุนนโยบายการจัดสวัสดิการแห่งรัฐแก่ผู้มีรายได้น้อย โดยในส่วนของกระทรวงแรงงาน จะเพิ่มสิทธิประโยชน์แก่แรงงานนอกระบบตามมาตรา 40 ของประกันสังคม โดยเฉพาะในปี 2561 จะเห็นการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น เพื่อให้แรงงานนอกระบบที่มีอยู่กว่า 20 ล้านคนได้รับประโยชน์ที่ใกล้เคียงกับแรงงานในระบบ อาทิ การได้รับการฝึกอาชีพ การจ้างงานเร่งด่วนและการพัฒนาทักษะฝีมือ รวมทั้งการมีมาตรการรองรับพี่น้องที่ประสบภัยธรรมชาติหรือว่างเว้นจากงานตามฤดูกาล นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะมุ่งเน้นการยกระดับแรงงานนอกระบบเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนด้านอาชีพ โดยตั้งเป้าหมายนำร่องฝึกอาชีพทั่วประเทศให้ได้ 1 ล้านคน ซึ่งภาคอีสานมีแรงงานนอกระบบที่ครอบคลุมถึง 5.9 ล้านคน ทั้งนี้ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ให้คนมีงานทำ มีรายได้ และแก้ไขปัญหาความยากจนให้หมดไปตามนโยบายรัฐบาล
ด้าน หม่อมหลวงปุณฑริก สมิติ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า อาสาสมัครแรงงาน (อสร.) ถือเป็นกลไกสำคัญของกระทรวงแรงงานในการนำบริการด้านแรงงานเข้าถึงความต้องการของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่มีความต้องการฝึกอาชีพระหว่างว่างเว้นจากการรอฤดูกาลเกษตร ซึ่งกระทรวงแรงงานต้องการให้มีอาสาสมัครแรงงานในทุกระดับทั้งระดับตำบล อำเภอ และหมู่บัาน แต่เนื่องจากในแต่ละปีได้รับการจัดสรรงบประมาณที่ค่อนข้างจำกัด ข้อเสนอในวันนี้กระทรวงจะรับไปพิจารณา
ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวต่อว่า จากการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยเพื่อรับสวัสดิการแห่งรัฐ พบว่า มีผู้ลงทะเบียนรายได้น้อยจำนวน 14 ล้านคน ในจำนวนนี้มีผู้มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี จำนวน 5 ล้านคน ทั้งนี้ในปีงบประมาณ 2561 กระทรวงแรงงานจะเพิ่มศักยภาพให้แก่ผู้มีรายได้น้อย แรงงานนอกระบบ รวมถึงผู้สูงอายุ และคนพิการด้วย โดยเน้นการฝึกทักษะ สร้างงาน สร้างอาชีพ เสริมรายได้เพื่อให้หลุดพ้นจากความยากจน ซึ่งขณะนี้ได้ออกแบบโครงการไว้แล้วและอยู่ระหว่างการเตรียมเพื่อเสนอโครงการต่อรัฐบาลต่อไป
———————————————-
กลุ่มงานโฆษกและการข่าว/
กองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์/
ชนินทร เพ็ชรทับ- ข่าว/
สมภพ ศีลบุตร – ภาพ/
18 สิงหาคม 2560