วันที่ 12 ธันวาคม 2568 เวลา 09.00 น. พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นางสาวจีระภา บุญรัตน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงรงงาน เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่เพื่อเป็นพี่เลี้ยงเยาวชนประเด็นการมีส่วนร่วมที่มีความหมายสำหรับเด็กและเยาวชน และการแก้ไขปัญหาเยาวชนที่ไม่ได้อยู่ในระบบการศึกษา การทำงานหรือการฝึกอบรม (Youth Not in Education, Employment or Training, NEET) ตามมาตรฐานอาชีพผู้ทำงานกับเยาวชน (Youth Worker) ระดับ 4 โดยมี คุณอิลาเรีย ฟาเวโร่ หัวหน้าฝ่ายการพัฒนาวัยรุ่นและการมีส่วนร่วม องค์การยูนิเชฟ ประเทศไทย กล่าวรายงาน นางสาววิลสา พงศธร ผู้แทนองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ผู้แทนมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ผู้อำนวยการสำนัก ศูนย์ กอง แรงงานจังหวัด ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ บัณฑิตแรงงาน และอาสาสมัครแรงงาน เข้าร่วมด้วย ณ โรงแรมแมนดาริน สามย่าน ถนนพระรามที่ 4 เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
.
นางสาวจีระภา กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายด้านโครงสร้างประชากรและกำลังแรงงาน ข้อมูลจากธนาคารโลกชี้ให้เห็นว่า เรามีเยาวชนอายุ 15 – 24 ปี มากถึง 1.28 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 14 ของเยาวชนทั้งหมด ที่ตกอยู่ในสภาวะ NEETs (Not in Education, Employment or Training) คือ ไม่ได้เรียน ไม่ได้ทำงาน และไม่ได้รับการฝึกอบรม ตัวเลขนี้ไม่ใช่เพียงสถิติ แต่หมายถึงโอกาสที่สูญเสียไปของประเทศ การที่เยาวชนหลุดออกจากระบบการศึกษาเนื่องจากความยากจน หรือขาดทักษะที่จำเป็น ทำให้พวกเขาไม่สามารถเข้าสู่ตลาดแรงงานที่มีคุณค่าได้ ส่งผลให้เกิดปัญหาความยากจนข้ามรุ่นและปัญหาสังคมตามมา การดึงเยาวชนกลุ่มนี้กลับเข้ามาสู่ระบบ ไม่ว่าจะกลับมาเรียน ฝึกทักษะอาชีพ หรือเข้าทำงาน จึงเป็น “ความจำเป็นเร่งด่วน” ที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจของชาติในระยะยาว
.
นางสาวจีระภา กล่าวต่อว่า กระทรวงแรงงาน ตระหนักถึงความซับซ้อนของปัญหานี้ จึงได้ร่วมกับ องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย และภาคีเครือข่าย เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาอย่างบูรณาการ โดยเราได้ถอดบทเรียนความสำเร็จจากโครงการนำร่องในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และในปีนี้ เรากำลังขยายผลการดำเนินงานไปยัง 10 จังหวัดเป้าหมายทั่วทุกภูมิภาค รวมถึงพื้นที่นำร่องเดิมอีก 2 จังหวัด ซึ่งกระทรวงแรงงานทำงานหน่วยงานเดียวไม่ได้ เราต้องอาศัยความร่วมมือจากภาคเอกชน ท้องถิ่นและชุมชน ในการส่งต่อเยาวชนเข้าสู่โอกาสที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาต่อ การฝึกอาชีพหรือการจ้างงาน หัวใจสำคัญของโครงการนี้ คือ “กลไกในระดับพื้นที่” เพราะบริบท ปัญหา และวิถีชีวิตของเยาวชนในแต่ละจังหวัดนั้นแตกต่างกัน คนที่จะเข้าถึงและเข้าใจเยาวชนได้ดีที่สุด ไม่ใช่ส่วนกลาง แต่คือ ท่านทั้งหลายที่นั่งอยู่ที่นี่ โดยเฉพาะ บัณฑิตแรงงาน และอาสาสมัครแรงงาน ท่านคือ”โซ่ข้อกลาง” ที่เชื่อมโยงนโยบายไปสู่การปฏิบัติจริง ท่านคือผู้ที่จะลงไปเคาะประตูบ้าน ค้นหา พูดคุย และจูงมือเยาวชนเหล่านั้นให้กลับเข้าสู่โอกาสอีกครั้ง
.
การทำงานกับเยาวชนกลุ่มเปราะบางนั้น ใช้เพียง “ความตั้งใจ” อย่างเดียวไม่พอ แต่ต้องมี “ทักษะและความเข้าใจ” ที่ถูกต้องด้วย การฝึกอบรมในวันนี้ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะท่านจะได้รับการพัฒนาตาม มาตรฐานอาชีพผู้ทำงานกับเยาวชน (Youth Worker) ระดับ 4 ตลอดระยะเวลาการอบรม ท่านจะได้เรียนรู้ทักษะที่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็นจิตวิทยาและการสื่อสารเชิงบวกเพื่อสร้างความไว้วางใจ การสร้างพื้นที่ปลอดภัย (Safe Space) ให้เยาวชนกล้าเปิดใจ การให้คำปรึกษาและสนับสนุนให้เยาวชนเข้าถึงบริการที่จำเป็น สิ่งเหล่านี้จะเปลี่ยนบทบาทของท่าน จากเจ้าหน้าที่หรืออาสาสมัครทั่วไป ให้กลายเป็น “พี่เลี้ยงเยาวชนมืออาชีพ” ที่สามารถประคับประคองน้อง ๆ ให้ก้าวข้ามอุปสรรคได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
.
“กระทรวงแรงงานขอขอบคุณองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย คณะวิทยากรจากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ และผู้เข้าร่วมอบรมทุกท่าน ที่มาร่วมกันผลักดันภารกิจสำคัญนี้ ขอให้การฝึกอบรมบรรลุวัตถุประสงค์ และขอให้ทุกท่านนำความรู้กลับไปเป็นพลังในการขับเคลื่อนการทำงานในพื้นที่
เพื่อสร้างอนาคตที่ดีให้กับเยาวชนไทยต่อไป” นางสาวจีระภา กล่าว































