Skip to main content

ก.แรงงาน แจงแนวปฏิบัติจ้างเมียนมา ลาว กัมพูชา ตาม พ.ร.ก.ต่างด้าว

รายละเอียดเนื้อหา

       กระทรวงแรงงาน เตรียมเปิดศูนย์รับแจ้งการทำงานของคนต่างด้าว ๒๔ กรกฎาคม – ๗ สิงหาคม ๒๕๖๐ รองรับให้ยื่นคำขอจ้างแรงงานต่างด้าว กรณีนายจ้างใช้แรงงานต่างด้าวไม่มีใบอนุญาตทำงาน เปิด 10 แห่งในกรุงเทพ ฯ และ 1 แห่ง ในทุกจังหวัด




Preview

Download Images

       นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ ผู้ตรวจกระทรวงแรงงาน ในฐานะโฆษกกระทรวงแรงงาน แถลงข่าวชี้แจง ‘แนวทางปฏิบัติการจ้างแรงงานต่างด้าวระยะผ่อนผัน’ ให้สามารถดำเนินการได้อย่างถูกต้องว่า เมื่อวันที่  ๖ กรกฎาคม 2560  ที่ผ่านมา พลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ออกประกาศกระทรวง เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตทำงานและการอนุญาตให้ทำงาน ตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๖๐ เป็นผลให้ผู้ประกอบการ/นายจ้าง ที่มีแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาว กัมพูชา ทำงานอยู่ด้วยแบบไม่ถูกต้อง  สามารถดำเนินการได้ดังนี้ 
       1) แรงงานต่างด้าวที่ผ่านการตรวจสัญชาติ และได้รับหนังสือเดินทาง (Passport) หนังสือเดินทางชั่วคราว (Temporary Passport) เอกสารเดินทาง (Travel Document) หรือเอกสารรับรองบุคคล(Certificate of Identity) ซึ่งได้รับการตรวจลงตรา (Visa) ประเภทคนอยู่ชั่วคราว (Non-Immigrant L-A) แต่ไม่ยื่นคำขออนุญาตทำงานภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันที่ได้รับการตรวจลงตรา ให้ไปยื่นคำขออนุญาตทำงาน ณ สำนักงานจัดหางานจังหวัด หรือสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ ๑ – ๑๐ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานที่ทำงานปัจจุบัน  มีค่าธรรมเนียมการยื่นคำขอ ๑๐๐ บาท และค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำงาน ปีละ ๙๐๐ บาท
       2) แรงงานต่างด้าวที่ผ่านการตรวจสัญชาติ และได้รับการผ่อนผันให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อรอการส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักร (บัตรสีชมพู) ซึ่งได้รับอนุญาตให้ทำงาน แต่ทำงานไม่ตรงกับนายจ้างตามที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตทำงานเดิม หรือไม่ตรงตามเอกสารแสดงตน ให้ไปยื่นคำขออนุญาตทำงาน ณ สำนักงานจัดหางานจังหวัด หรือสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ ๑ – ๑๐ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานที่ทำงานปัจจุบัน  มีค่าธรรมเนียมการยื่นคำขอ ๑๐๐ บาท และค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำงาน ปีละ ๙๐๐ บาท ซึ่งจะได้รับการยกเว้นการตรวจสุขภาพ
       3)  นายจ้างที่ใช้แรงงานต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต ให้ยื่นคำขอจ้างแรงงานต่างด้าว  โดยกระทรวงแรงงานจะเปิด ศูนย์รับแจ้งการทำงานของคนต่างด้าว ให้บริการในกรุงเทพมหานคร ๑๐ แห่ง และ 1 แห่งในทุกจังหวัด  ตั้งแต่วันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๐ –  ๗  สิงหาคม ๒๕๖๐ ในเวลาราชการ ไม่เว้นวันหยุดราชการ  ซึ่งนายจ้างสามารถมายื่นด้วยตนเองหรือมอบอำนาจผู้ทำการแทนได้  โดยใช้เอกสารบัตรประชาชน หรือหนังสือใบสำคัญการจดทะเบียนนิติบุคคลของนายจ้าง  และเอกสารหรือภาพถ่ายของแรงงานต่างด้าว ขนาด ๑.๕ นิ้ว หรือ ๒ นิ้ว ๒ รูป  โดยจะออกใบรับคำขอพร้อมกำหนดนัดหมายให้นายจ้างนำแรงงานต่างด้าวไปพบภายหลัง เพื่อตรวจสอบและพิสูจน์ทราบว่าเป็นลูกจ้างและทำงานกับนายจ้างจริง ก่อนออกเอกสารรับรองการเดินทางไปนอกราชอาณาจักรเพื่อขอรับหนังสือเดินทาง (Passport) หนังสือเดินทางชั่วคราว (Temporary Passport) เอกสารเดินทาง (Travel Document) หรือเอกสารรับรองบุคคล (Certificate of Identity) หรือเอกสารที่ประเทศต้นทางออกให้  ทั้งนี้ กรณีเป็นแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา  สามารถไปจัดทำเอกสารกับประเทศเมียนมาในศูนย์ตรวจสัญชาติคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ที่จังหวัดสมุทรสาคร ๒ แห่ง สมุทรปราการ ระนอง ตาก และเชียงราย โดยไม่ต้องเดินทางกลับประเทศต้นทาง  เมื่อแรงงานต่างด้าวได้รับเอกสารดังกล่าวแล้ว  ให้ไปขอรับการตรวจลงตรา (Visa) ณ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดที่จะทำงานกับนายจ้าง โดยชำระค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา (Visa) ประเภทคนอยู่ชั่วคราว (Non-Immigrant L-A) ในอัตรา ๕๐๐ บาท ซึ่งจะอนุญาตให้อยู่ทำงานได้ถึงวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๑  และให้นายจ้างนำคนต่างด้าวไปยื่นคำขออนุญาตทำงาน ณ สำนักงานจัดหางานจังหวัด หรือสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ ๑ – ๑๐ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานที่ทำงานปัจจุบัน  มีค่าธรรมเนียมการยื่นคำขอ ๑๐๐ บาท และค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำงาน ๔๕๐ บาท  พร้อมทั้งให้ตรวจสุขภาพและประกันสุขภาพในระหว่างเวลาที่ยังไม่ได้เข้าสู่ระบบประกันสังคม  
       “สำหรับนายจ้างที่มีความประสงค์จ้างแรงงานต่างด้าวทำงาน หรือต้องการแรงงานต่างด้าวเพิ่มจากที่มีจ้างไว้อยู่เดิมแบบถูกกฎหมาย  สามารถดำเนินการยื่นคำขอจ้างได้ตามขั้นตอนระบบ MOU ได้ตามปกติ ณ สำนักงานจัดหางานจังหวัด หรือสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ ๑ – ๑๐  ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ยังกำชับเด็ดขาดให้ลงโทษวินัยร้ายแรง และดำเนินคดีอาญา หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่กระทำผิดเรียกรับสินบนหรือทรัพย์สินจากนายจ้างหรือแรงงานต่างด้าว”  นายอนันต์ชัยฯ กล่าวท้ายสุด

——————————————————-

TOP