วันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยภาพรวมสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ที่ได้รับรายงานจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานว่า จากรายงานของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานในพื้นที่ประสบภัย พบว่า มีจังหวัดได้รับผลกระทบ 12 จังหวัด 105 อำเภอ 632 ตำบล 4,523 หมู่บ้าน 740,405 ครัวเรือน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 1,966,843 ราย ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วม 10 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี กระบี่ นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส มีผู้เสียชีวิตแล้ว 17 ราย จากการตรวจสอบเป็นผู้ประกันตน มาตรา 40 จำนวน 1 ราย ไม่เป็นผู้ประกันตน 2 ราย และที่เหลืออยู่ระหว่างการตรวจสอบ สถานประกอบการได้รับผลกระทบ 22,988 แห่ง ลูกจ้าง 309,368 ราย เป็นสถานประกอบการในระบบประกันสังคมได้รับผลกระทบจากอุทกภัย จำนวน 10,797 แห่ง ลูกจ้าง 205,783 คน
นางสาวตรีนุช ยังได้กล่าวถึงมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของกระทรวงแรงงานว่า เบื้องต้นตนได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัด หรือ 5 เสือแรงงานในพื้นที่ ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือร่วมกับทางจังหวัด ทั้งการอพยพ การขนย้ายผู้ประสบภัยไปยังศูนย์พักพิง นอกจากนี้ กระทรวงแรงงาน โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ได้ให้สถาบัน/สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานทุกจังหวัดในพื้นที่ประสบภัยตั้งโรงครัวประกอบอาหาร ทำข้าวกล่องเพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานยังมีมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยเพื่อฟื้นฟูภายหลังน้ำลด ทั้งการฟื้นฟูอาชีพผ่านกิจกรรมการจ้างงานเร่งด่วน แนะแนวอาชีพ สนับสนุนกลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้าน จัดหางานตำแหน่งงานว่าง ตั้งศูนย์บริการซ่อมอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า พาหนะ และเครื่องจักรกลทางการเกษตร ฝึกอบรมพัฒนาฝีมือแรงงานเสริมอาชีพหลัก ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการกู้เงินกองทุนความปลอดภัยฯ ช่วยเหลือด้านการคุ้มครองและสิทธิพึงได้ตามกฎหมายแรงงาน จ่ายเงินเยียวยาแก่ผู้ประกันตนกรณีว่างงานเนื่องจากเหตุสุดวิสัย จัดหาเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้นายจ้าง ให้บริการสิทธิประโยชน์ต่างๆ แก่ผู้ประกันตน เช่น กรณีลูกจ้างผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยและไม่สามารถไปทำงานได้ ตรงส่วนนี้ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับเงินว่างงานตั้งแต่วันที่ผู้ประกันตนไม่สามารถทำงานได้หรือนายจ้างไม่สามารถประกอบกิจการได้อัตราการจ่ายประโยชน์ทดแทน ร้อยละ 50 ของค่าจ้างรายวันไม่เกิน 180 วัน สามารถส่งแบบคำขอและหนังสือรับรองไปที่สำนักงานประกันสังคมทุกแห่งทั่วประเทศ
ส่วนลูกจ้างที่สถานประกอบการน้ำท่วมหรือบ้านน้ำท่วมไม่สามารถเดินทางไปทำงานได้ กระทรวงแรงงาน โดยกรมสวัสดิการคุ้มครองแรงงาน ได้ออกหนังสือขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้มีมาตรการช่วยเหลือลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบและเดือดร้อนจากภัยธรรมชาติ กรณีที่ไม่สามารถเข้าทำงานได้ เนื่องจากน้ำท่วมสูงหรือเส้นทางถูกตัดขาด ให้ลูกจ้างสามารถหยุดงานได้โดยไม่ถือเป็นวันลา และจ่ายค่าจ้างให้ตามปกติ
รวมทั้งหากลูกจ้างในสถานประกอบการต้องการเข้าถึงแหล่งเงินทุนมาเพื่อซ่อมบ้าน หรือฟื้นฟูอาชีพหลังน้ำลด กระทรวงแรงงาน โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จัดทำโครงการเงินกู้เพื่อบรรเทาผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ เพื่อให้ลูกจ้างที่เป็นสมาชิกของสหกรณ์ออมทรัพย์ในสถานประกอบการและรัฐวิสาหกิจได้รับความช่วยเหลือในการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหรือฟื้นฟูอาชีพหลังประสบภัย ให้ลูกจ้างที่เป็นสมาชิกสหกรณ์กู้ได้สูงสุดไม่เกินสหกรณ์ละ 20 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อปี ระยะเวลาการส่งชำระคืนสูงสุดไม่เกิน 5 ปี
ทั้งนี้ ผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยและต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่หน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานทุกแห่งทั่วประเทศ หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506
