สื่อทางการ (https://www.news.gov.hk/eng/2022/05/20220529/20220529_151015_774.html?type=ticker) แจ้งว่าทางฮ่องกงประกาศ ตั้งแต่วันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๖๕ จะมีการปรับการทดสอบกรดนิวคลีอิกจากปฏิกิริยาลูกโซ่โพลีเมอเรส (PCR) ก่อนออกเดินทางและหลังเดินทางมาฮ่องกงสำหรับผู้เดินทางขาเข้าจากต่างประเทศและไต้หวัน การปรับเปลี่ยนนี้เพื่อลดผลกระทบต่อการเดินทางของผู้เดินทาง และป้องกันการนำเข้าเคส COVID-19 อย่างเข้มงวด สรุปรายละเอียด ดังนี้
๑) ผู้เดินทางเข้าฮ่องกงที่เคยพักในต่างประเทศหรือในไต้หวัน ต้องทำการทดสอบ PCR ในวันที่ ๕ วันที่ ๙ และวันที่ ๑๒ ของการมาถึงฮ่องกง และยังคงต้องกักตัวในโรงแรมที่กำหนดเป็นเวลา ๗ วัน
๒) ต้องแสดงหลักฐานผลทดสอบ PCR เป็นลบภายใน 48 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง โดยไม่ต้องแสดงเอกสารหลักฐานการรับรองมาตรฐาน ISO 15189 จากห้องปฏิบัติการในท้องถิ่นหรือสถาบันสุขภาพที่ทำการทดสอบ PCR อีกต่อไป
๓) เด็กที่อายุต่ำกว่า ๓ ปีที่เคยพักในต่างประเทศหรือไต้หวันไม่จำเป็นต้องแสดงหลักฐานการทดสอบ (PCR) ก่อนออกเดินทาง ๔๘ ชั่วโมง แต่จะยังอยู่ภายใต้การทดสอบ PCR และการกักตัวในที่โรงแรมกักที่กำหนด
๔) ผู้โดยสารที่เปลี่ยนเครื่องไม่ต้องแสดงหลักฐานการทดสอบ PCR ก่อนออกเดินทาง ๔๘ ชั่วโมง
๕) ผู้โดยสารจากต่างประเทศหรือไต้หวันที่เคยติดเชื้อไวรัส ๑๔ ถึง ๙๐ วัน ก่อนขึ้นเครื่องมาฮ่องกงและหายดีแล้ว จะได้รับอนุญาตให้ขึ้นเครื่องบินเดินทางมาฮ่องกงได้หากมีหลักฐานเอกสารรับรองว่าหายดีแล้ว และมีผลการทดสอบแอนติเจนอย่างรวดเร็วที่ดำเนินการภายใน ๒๔ ชั่วโมงก่อนขึ้นเครื่อง เป็นลบ
๖) ให้สายการบินตรวจสอบการปฏิบัติตามเงื่อนไขการขึ้นเครื่องของผู้โดยสารอย่างเข้มงวด หากเป็นกรณีแรกภายในระยะเวลา ๑๐ วันสำหรับเที่ยวบินที่ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการขึ้นเครื่องของผู้โดยสาร การท่าอากาศยานจะออกคำเตือนไปยังสายการบินและกำหนดโทษปรับเป็น ๒๐,๐๐๐ ดอลลาร์ฮ่องกง และหากเที่ยวบินของเส้นทางนั้นมีการไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการขึ้นเครื่องของผู้โดยสาร อีกครั้งภายใน ๑๐ วัน เที่ยวบินผู้โดยสารของสายการบินในเส้นทางนั้นจากต้นทางเดียวกันจะถูกห้ามลงจอดในฮ่องกงเป็นเวลา ๕ วัน
