Skip to main content

ปลัดแรงงาน ‘ย้ำ’ ความปลอดภัยในการทำงาน เกิดจากการบูรณาการการทำงานจากทุกภาคส่วน

รายละเอียดเนื้อหา

          ปลัดกระทรวงแรงงาน เน้นย้ำ การดำเนินการเพื่อขับเคลื่อนนโยบายด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี เกิดจากความร่วมมือบูรณาการการทำงานของทุกภาคส่วน
 
 
          พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดโครงการ Safety Thailand ในสถานศึกษากับเยาวชนสู่วัยแรงงาน จังหวัดฉะเชิงเทรา ณ อาคารพนาเวศ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด โรงงานบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา วันนี้ (20 ก.ค. 61) โดย ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า “กระทรวงแรงงาน ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้เน้นย้ำถึงการดำเนินการขับเคลื่อนนโยบาย Safety Thailand มาอย่างต่อเนื่อง โดยใช้การบูรณาการการทำงานด้วยกลไกประชารัฐ คือภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ร่วมมือกันเพื่อสร้างความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดีกับผู้ทำงานทุกคน ที่ผ่านมามีจำนวนผู้ประสบอุบัติเหตุจากการทำงานจำนวนมาก โดยเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ความประมาทเลินเล่อของผู้ปฏิบัติงาน อันตรายจากสารเคมี หรือสิ่งมีชีวิต อันตรายจากโครงสร้างทางกายภาพที่ไม่ได้มาตรฐาน หรืออันตรายที่เกิดจากความไม่สมบูรณ์ของอุปกรณ์ด้านความปลอดภัย ซึ่งสิ่งเหล่านั้น ที่ผ่านมาเราใช้มาตรการในการ “แก้ไข” ซึ่งเป็นการทำงานในเชิงรับและไม่ทันต่อสถานการณ์ 
          กระทรวงแรงงานและภาคีเครือข่าย จึงได้มุ่งหมายที่จะปรับแนวคิดในการดำเนินการด้านความปลอดภัย จากการดำเนินการในเชิงรับ ไปสู้การสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในเชิงรุก คือ “การป้องกัน” ไม่ให้เกิดเหตุ ด้วยการสร้างวัฒนธรรมและจิตสำนึกแห่งความปลอดภัย ซึ่งสอดคล้องกับ “วิสัยทัศน์อุบัติเหตุจากการทำงานเป็นศูนย์ หรือ Vision Zero” ที่สมาคมประกันสังคมระหว่างประเทศได้ประกาศเจตนารมณ์ ในการจัดการประชุมนานาชาติว่าด้วยความปลอดภัยและอาชีวอนามัยในการทำงาน ครั้งที่ 21 ณ ประเทศสิงคโปร์ ช่วงปีที่ผ่านมา กระทรวงแรงงาน โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจึงได้เกิดโครงการสถานศึกษาปลอดภัยขึ้น เพื่อมุ่งสร้างจิตสำนึก และวัฒนธรรมความปลอดภัยตั้งแต่ต้นน้ำ จาก “สถานศึกษา” เพื่อก้าวไปเป็นแรงงานที่มีคุณภาพใน “สถานประกอบการ” โครงการดังกล่าวเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2558 มาถึงปัจจุบัน มีสถาบันการศึกษาเข้าร่วมแล้วทั้งสิ้น 1,156 แห่ง และได้มีการปรับปรุงเกณฑ์การประเมินที่ประยุกต์มาจากกฎหมายด้านความปลอดภัยจำนวน 30 ข้อ เพื่อให้เกิดความปลอดภัย อาชีวอนามัยที่ดี และสภาพแวดล้อมในการทำงานที่เป็นมิตรกับผู้ทำงาน”
          “เรื่องของความปลอดภัยเป็นเรื่องของทุกๆ คน ดังนั้นทุกคนต้องร่วมกันขับเคลื่อนเรื่องความปลอดภัย ให้เป็นส่วนหนึ่งในการดำรงชีวิต และการดำเนินการเพื่อขับเคลื่อนนโยบายด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดีนั้น ไม่อาจเกิดขึ้นได้จากการทำงานของภาคส่วนใดเพียงส่วนเดียว หากแต่จะเกิดขึ้นได้ ก็ด้วยความร่วมมือบูรณาการการทำงานของทุกภาคส่วน เพื่อผนึกกำลังสร้างความปลอดภัยให้เกิดขึ้นในสังคม และประเทศชาติ เพื่อนำพาประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ต่อไป” ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวในท้ายที่สุด
 
+++++++++++++++++++
 
กองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์
ปริยรณ พรหมสาขา ณ สกลนคร ข่าว
20 กรกฎาคม 2561
 
TOP