Skip to main content

สาธารณรัฐเกาหลี ได้ประกาศมติของคณะกรรมการการจ้างแรงงานต่างชาติ ครั้งที่ 28  ที่เห็นชอบปี 2564 MOEL อนุญาตให้จ้างแรงงานต่างชาติ เพิ่ม 20 % ในภาคอุตสาหกรรม

รายละเอียดเนื้อหา

          กระทรวงแรงงานและการจ้างงานสาธารณรัฐเกาหลี (MOEL) ได้ประกาศมติของคณะกรรมการการจ้างแรงงานต่างชาติ ครั้งที่ 28  ที่เห็นชอบ ประเภทกิจการและเขตที่อนุญาตให้จ้างแรงงานต่างชาติเพิ่มร้อยละ 20 ในปี 2564 โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป ดังนี้
1. ประเภทกิจการที่อนุญาตให้จ้างแรงงานต่างชาติเพิ่มร้อยละ 20
○ อนุญาตให้จ้างแรงงานต่างชาติเพิ่มร้อยละ 20 ในประเภทกิจการของอุตสาหกรรมการผลิต โดยพิจารณาสถานการณ์การขาดแคลนแรงงานและการพัฒนาในอนาคต ดังนี้

รหัสประเภทกิจการ

รายละเอียดการผลิต

10

ผลิตภัณฑ์ประเภทอาหาร

13

ผลิตภัณฑ์เส้นใย (ยกเว้น เสื้อผ้า)

22

ผลิตภัณฑ์ยางและผลิตภัณฑ์พลาสติก

25

แปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็ก : ยกเว้นเครื่องจักรและเฟอร์นิเจอร์

26

ผลิตอะไหล่เครื่องใช้ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์จอภาพ เครื่องเสียง และอุปกรณ์ที่ใช้ในการสื่อสาร

29

ผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์อื่นๆ

○ เฉพาะอุตสาหกรรมรากฐานการผลิตที่ได้หนังสือรับรองจากศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมรากฐาน การผลิต สามารถจ้างแรงงานต่างชาติเพิ่มร้อยละ 20 ได้ โดยไม่คำนึงถึงประเภทกิจการดังกล่าว

2. เขตที่อนุญาตให้จ้างแรงงานต่างชาติเพิ่มร้อยละ 20

จำแนก

เขตเมือง

ยกเว้นกรุงโซล มหานครอินชอน

และจังหวัดเคียงกี

จ. คังวอน จ. ชุงชองนัม จ. ชุงชองบุก จ. ชอลลานัม  

จ. ชอลลาบุก จ. เคียงซางนัม จ. เคียงซางบุก               

จ. ปกครองพิเศษเชจู มหานครปูซาน มหานครแทกู มหานครกวางจู มหานครแทจอน มหานครอูลซาน และเมืองปกครองพิเศษเซจง

อำเภอเมืองในจังหวัดเคียงกีที่มีประชาชน ต่ำกว่า 2 แสนคน

เมืองอันซอง เมืองอืยวาง เมืองโพชอน เมืองยอจู อำเภอยังเพียง เมืองดงดูชอน เมืองกวาชอน อำเภอยอนชอน และเมืองกูรี

อำเภอเมืองในจังหวัดเคียงกีที่มี

บริษัทอุตสาหกรรมขนาดกลางและย่อม

ต่อประชากรอยู่ในระดับสูงร้อยละ 10

เมืองฮวาซอง เมืองซีฮึง

           ทั้งนี้เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 มาตั้งแต่เดือนมกราคม 2563  ส่งผลกระทบให้เกิดภาวะการขาดแคลานแรงงาน เนื่องจากแรงงานต่างชาติ ไม่สามารถเดินทางเข้ามาเกาหลีได้ตามปกติซึ่ง ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2563   มีแรงงานต่างชาติตามระบบ EPS วีซ่า E-9   รวม 16 ประเทศ   จำนวนทั้งสิ้น  242,944 คน

——————————-

 

 

TOP