Skip to main content

ผู้ใช้แรงงานอุ่นใจ ก.แรงงาน เตรียมมอบของขวัญ 9 ชิ้น รับปีใหม่ 2565

รายละเอียดเนื้อหา

          วันที่ 23 ธันวาคม 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ให้สัมภาษณ์รายการ เคลียร์ คัด ชัดเจน ตอน กระทรวงแรงงาน แจกของขวัญปีใหม่ พร้อมแจงแนวโน้มความต้องการของตลาดแรงงาน ปี 2565 ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง NBT

          นายบุญชอบ กล่าวว่า ในปี 2565 นี้กระทรวงแรงงานมีของขวัญปีใหม่ จำนวน 9 ชิ้น เพื่อมอบความสุขแก่พี่น้องผู้ใช้แรงงาน ประกอบด้วย ชิ้นที่ 1 ลด อัตราเงินสมทบของผู้ประกันตนมาตรา 40 ร้อยละ 60 นาน 6 เดือน ชิ้นที่ 2 มอบของขวัญปีใหม่ เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้ประกันตนที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง ทุพพลภาพทุกมาตรา ชิ้นที่ 3 เพิ่มอัตราเงินสงเคราะห์ลูกจ้าง กรณีโควิด-19 สูงสุด 100 เท่า ฟรี ตรวจวัดระดับแสง เสียง และความร้อน ที่เป็นอันตรายต่อผู้ปฏิบัติงาน เสริมศักยภาพ “สุขศาสตร์อุตสาหกรรมในสถานประกอบกิจการ” ชิ้นที่ 4 สิทธิพิเศษ สนับสนุนเงินทุนประกอบอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ กองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงานมอบสิทธิประโยชน์แก่สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ในสถานประกอบกิจการและในรัฐวิสาหกิจ ชิ้นที่ 5 ฟรี ดอกเบี้ย 0 % นาน 12 เดือน ตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2564 – 31 สิงหาคม 2565 กองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้าน มอบสิทธิประโยชน์แก่ผู้รับงานไปทำที่บ้านกว่า 6,000 คน ชิ้นที่ 6 ฟรี DSD Online Training อบรม ฟรี ทุกที่ทุกเวลา ระหว่างวันที่ 15 – 31 มกราคม 2565 ทาง http://onlinetraining.dsd.go.th ประกอบด้วยหลักสูตร การทำการ์ดอวยพรออนไลน์ การขับขี่ปลอดภัย การซ่อมบำรุงเบื้องต้นก่อนเดินทาง และ10 เมนูอาหารไทยยอดนิยม ชิ้นที่ 7 ฟรี  DSD Service บริการตรวจเช็ครถก่อนเดินทาง 12 รายการ ระหว่างวันที่ 15 – 30 ธันวาคม 2564 รายละเอียดเพิ่มเติมที่ Line Official กพร.พร้อมองค์กรเครือข่ายภาครัฐ และเอกชนร่วมเดินทางไปกับคุณ บริการข้อมูลที่ตั้งจุดให้บริการผู้เดินทาง 77 จังหวัด ตลอด 24 ชั่วโมง ชิ้นที่ 8 ลดขั้นตอนอนุมัติสิทธิฟอกเลือด โดยผู้ประกันตนไตวายเรื้อรังรายใหม่ ไม่ต้องสำรองจ่าย ผู้ประกันตนไตวายเรื้อรังรายใหม่ยื่นสิทธิ์ที่สถานพยาบาลที่รักษาได้ทันทีผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ต้องสำรองจ่าย และชิ้นที่ 9 ตรวจวัดระดับแสง เสียง และความร้อนที่เป็นอันตรายต่อผู้ปฏิบัติงาน เสริมศักยภาพ “สุขศาสตร์อุตสาหกรรมในสถานประกอบกิจการ”

          ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแนวโน้มความต้องการของตลาดแรงงาน ปี 2565 พบว่า การแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่เริ่มคลี่คลายจากการฉีดวัคซีน การผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์และการเปิดประเทศ นำไปสู่การฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปของอุปสงค์จากต่างประเทศในปลายปี 2564 จนถึงปี 2565 แต่ยังต้องเฝ้าระวังการระบาดของ Omicron โดยแนวโน้มการจ้างงานในแต่ละกลุ่มอาชีพ พบว่า การเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล และระบบอัตโนมัติในช่วงการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ส่งผลต่อความจำเป็นในการพัฒนาทักษะใหม่ ๆ ของแรงาน โดยในช่วงที่ผ่านมาผู้ประกอบการได้ให้ความสำคัญกับการจ้างพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านมากขึ้น เนื่องจากแรงงาน Routines tasks จะถูกทดแทนด้วยระบบอัตโนมัติ ดังนั้นแนวโน้มการจ้างงานในปี 2565 จึงแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มแรงงานในภาคกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ จะมีความต้องการแรงงานที่น้อยลง เช่น ภาคการเดินทาง ที่พัก และสันทนาการแบบ Face to face และกลุ่มแรงงานในภาคกิจกรรมที่สอดคล้องกับสถานการณ์การติดเชื้อที่อาจมีความต้องการมากขึ้น เช่น E-commerce, Food delivery, Online-payment tool สำหรับแรงงานพื้นฐานที่ไม่ต้องการทักษะ กระทรวงแรงงานได้เปิดให้ดำเนินการนำเข้าแรงงาน 3 สัญชาติ (เมียนมา ลาว กัมพูชา) ตาม MoU ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยนายจ้างที่มีความพร้อมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการจัดหาสถานที่กักตัว สามารถยื่นคำร้องขอนำคนต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศ (Demand) ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 64 เป็นต้นมา เพื่อขจัดปัญหาลักลอบเข้าเมืองเพื่อมาทำงานในประเทศไทยของแรงงานประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมทั้งป้องกันการขาดแคลนแรงงานให้นายจ้าง และสถานประกอบการในประเทศได้มีแรงงานในกิจการเพียงพอ ส่วนการส่งเสริมการประกอบอาชีพแก่ผู้ที่ประสงค์จะทำงานนอกระบบ ได้จัดเตรียมข้อมูลอาชีพทางเลือกไว้ให้บริการ สำหรับผู้ที่มีเวลาว่างมากขึ้น ผู้ว่างงาน หรือผู้ที่ต้องการหารายได้เสริม เพื่อเพิ่มโอกาสมีอาชีพ มีรายได้ มีงานทำในช่วงสถานการณ์โควิด -19 หรือเป็นแนวคิดเพื่อจุดประกายความคิด สร้างแรงบันดาลใจในการประกอบอาชีพ และอาจทำเป็นอาชีพหลักได้ในอนาคต ซึ่งประชาชนที่สนใจสามารถเข้าไปค้นหาข้อมูลอาชีพ และรับชมวิดีโอสาธิตการประกอบอาชีพ ได้ทางเว็บไซต์  www.doe.go.th/vgnew  ของกองส่งเสริมการมีงานทำ กรมการจัดหางาน

———————————————–

กองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์

23 ธันวาคม 2564

TOP