เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2566 เวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน นางสาวบุปผา เรืองสุด อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และนายสมชาย มรกตศรีวรรณ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการจัดหางาน และคณะ เข้าเยี่ยมคารวะ นายดามพ์ บุญธรรม เอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย ในโอกาสเยี่ยมเยือนสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด และสำนักงานแรงงานในประเทศซาอุดีอาระเบีย
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ในวันนี้ผมพร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ขอขอบคุณท่านเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงริยาด ที่ให้การต้อนรับ ที่สำคัญท่านยังให้การดูแลแรงงานไทยที่มาทำงานในประเทศซาอุดีอาระเบียเป็นอย่างดี ให้แรงงานเหล่านี้ได้รับสิทธิประโยชน์ความคุ้มครองตามกฎหมาย และมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดี ผมยังได้หารือข้อราชการเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านแรงงานภายหลังการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและซาอุดีอาระเบีย เมื่อปี 2565 ซึ่งซาอุดีอาระเบียมีความต้องการแรงงานในหลายภาคส่วน ทั้งในภาคก่อสร้างรองรับโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานตามนโยบาย Saudi Vision 2030 ภาคบริการ การท่องเที่ยว การรักษาพยาบาลและการดูแล นอกจากนั้น ยังได้มีการพูดคุยถึงมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเดินทางเข้ามาทำงานโดยใช้วีซ่าผิดประเภท ซึ่งจะทำให้ไม่ได้รับความคุ้มครองทางกฎหมาย การเจรจาผลักดันฝ่ายซาอุดีอาระเบียให้กำหนดค่าจ้างที่เป็นธรรมและจูงใจ รวมถึงการสร้างความร่วมมือระหว่างสองประเทศในการพัฒนาทักษะและการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ ในสาขาที่ประเทศไทยมีศักยภาพ
โอกาสนี้ นายพิพัฒน์ และคณะ ยังได้ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้แก่ข้าราชการและเจ้าหน้าที่สำนักงานแรงงานในประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยมี นายธนิทธิ์ ลอยพิมาย อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด และเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับ โดย รมว.แรงงานได้รับฟังรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์แรงงานไทยในประเทศเขตอาณา จำนวน 12 ประเทศ ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย บาห์เรน คูเวต เลบานอน อียิปต์ แอลจีเรีย โมรอกโก จอร์แดน อิรัก ซีเรีย ลิเบีย และเยเมน ซึ่งจากรายงานของอัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) พบว่า แรงงานไทย ภายหลังการฟื้นฟูความสัมพันธ์ จำนวนแรงงานไทยในซาอุดีอาระเบียเพิ่มขึ้นตามลำดับ แต่ยังคงไม่มากนักเนื่องจากตลาดซาอุดีอาระเบียยังคงมีค่าจ้างที่ไม่จูงใจนักเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ แต่ก็ยังคงมีความเป็นไปได้ในการผลักดันการส่งแรงงานฝีมือระดับสูง เช่น วิศวกร และสถาปนิก มารองรับโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ และกลุ่มลูกเรือสายการบิน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ยังได้เน้นย้ำการทำงานเพื่อคุ้มครองและรักษาผลประโยชน์ให้แก่แรงงานไทย ให้ได้รับข้อมูลและประโยชน์สูงสุด ทั้งนี้ แรงงานไทยที่ต้องการไปทำงานต่างประเทศ สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 -10 หรือติดตามประกาศรับสมัครงานในต่างประเทศได้ที่เว็บไซต์กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ doe.go.th/overseas หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน
On December 14, 2023, at 10.00 hours, local time in Saudi Arabia, the Labour Minister, Mr. Phiphat Ratchakitprakarn, the Permanent Secretary of Labour, Mr. Phairoj Chotikasatian, the Department of Skill Development’s Director-General, Ms. Bubpha Rueangsud, and the Ministry of Labour’sInspector-General and Acting Director-General of the Department of Employment, Mr. Somchai Morakotsriwan, paid a courtesy call to the Thai Ambassador to Riyadh, Saudi Arabia, Mr. Darm Boontham, on the occasion of visiting the Royal Thai Embassy in Riyadh and the Labour Office in Saudi Arabia.
Mr. Phiphat said that today, he and the Ministry of Labour’s executives thanked the Thai Ambassador to Riyadh for welcoming them. Most importantly, he has taken good care of Thai workers working in Saudi Arabia, ensuring they receive benefits and protection according to the law and live in good conditions. They also discussed government matters regarding the labour situation after the restoration of diplomatic relations between Thailand and Saudi Arabia in 2022. Saudi Arabia has a need for workers in many sectors, including the construction sector, to support infrastructure development projects following the Saudi Vision 2030 policy. It also requires workers in the services and tourism industry and medical treatment and care. In addition, they discussed measures to prevent people from traveling for work using the wrong type of visa, which prevents such people from being protected by law. They further negotiated for Saudi Arabia to set fair and attractive wages, which includes building cooperation between the two countries in developing skills and certifying professional qualifications in fields where Thailand has potential.
On this occasion, Mr. Phiphat and the delegation also paid a visit and delivered policies to civil servants and officials of the Labour Office in Saudi Arabia. The Minister Counselor (on Labour) at the Royal Thai Embassy in Riyadh, Mr. Thanit Loipimai, and officials gave a welcome. The Labour Minister listened to reports about the situation of Thai workers in 12 countries, namely Saudi Arabia, Bahrain, Kuwait, Lebanon, Egypt, Algeria, Morocco, Jordan, Iraq, Syria, Libya and Yemen. The Minister Counselor (on Labour) reported that after the restoration of relationships, the number of Thai workers in Saudi Arabia increased, but not significantly, as Saudi Arabia’s wages are not as high as other countries. However, it is still possible to push for sending high-level skilled workers such as engineers and architects to support large construction projects and airline crews.
The Labour Minister also emphasized working to protect and preserve the interests of Thai workers to receive the most information and benefits possible. Thai workers who want to work abroad can contact the Provincial Employment Office in every province, the Bangkok Employment Office Areas 1 -10, or follow job announcements abroad at the website of the Overseas Employment Administration Division at doe.go.th/overseas, or ask for more details at the Ministry of Labour’s hotline, call 1506, press 2 for the Department of Employment.
+++++++++++++++++++
กองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์/Division of Public Relations