วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 09.30 น. นายประทีป ทรงลำยอง อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานพิธีเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ การจัดทำโครงสร้างค่าจ้างเงินเดือนในภาคเอกชน รุ่นที่ 12 ณ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ถนนแจ้งวัฒนะ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี โดยกล่าวว่า บทบาทของคณะกรรมการค่าจ้าง นอกจากการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ และอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือแล้ว ยังมีอำนาจหน้าที่กำหนดแนวทางในการพิจารณาปรับค่าจ้างตามภาวะเศรษฐกิจและสังคมของนายจ้าง ซึ่งคณะกรรมการค่าจ้างได้มีแนวทางส่งเสริมให้สถานประกอบกิจการจัดทำโครสร้างค่าจ้างเงินเดือนของตนเอง เพื่อใช้ปรับค่าจ้างให้ลูกจ้างตามความรู้ ความสามารถ และผลงาน อีกทั้ง คณะกรรมการค่าจ้างตระหนักดีว่าการบริหารค่าจ้าง เงินเดือน และค่าตอบแทนเป็นเรื่องที่สำคัญของทุกองค์กร และการกำหนดโครงสร้างค่าจ้างเงินเดือนให้สอดคล้องกับนโยบายขององค์กร ถือเป็นภารกิจหลักขององค์กรไม่ว่าขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ก็ตาม โครงสร้างค่าจ้างเงินเดือนที่ดีนั้น จะทำให้นายจ้างสามารถควบคุมต้นทุนแรงงานได้ เช่น การควบคุมอัตรากำลังคนให้อยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ สามารถคาดการณ์ต้นทุนแรงงานในอนาคตได้ ซึ่งจะเป็นผลดีในการรักษาความสามารถในการจ่ายค่าตอบแทนในระยะยาวของสถานประกอบกิจการไว้ได้ และรักษาบุคลากรที่มีความสามารถให้อยู่กับองค์กรในระยะยาว ส่วนลูกจ้างก็ได้รับค่าจ้างตามประสบการณ์ทำงานและทักษะฝีมือ มีโอกาสก้าวหน้าในสายอาชีพ และมีแรงจูงใจในการพัฒนาทักษะฝีมือของตนเอง อันส่งผลให้มีผลิตภาพแรงงานที่ดีและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
กระทรวงแรงงานได้ร่วมมือกับสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ จัดโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การจัดทำโครงสร้างค่าจ้างเงินเดือนในภาคเอกชน ตั้งแต่ปี 2555 จนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 10 กว่าปีแล้ว ซึ่งจากการติดตามผลการฝึกอบรมที่ผ่านมา พบว่า สถานประกอบกิจการให้ความสำคัญกับการจัดทำโครงสร้างค่าจ้างเงินเดือน โดยมีการนำความรู้ที่ได้รับไปจัดทำหรือปรับปรุงโครงสร้างค่าจ้างเงินเดือน ดังนั้น กระทรวงแรงงานจึงหวังว่าท่านจะได้รับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้างค่าจ้างเงินเดือน สามารถนำไปใช้ให้เกิดประสิทธิผลอย่างเต็มที่ และการที่ท่านทั้งหลายได้เสียสละเวลาอันมีค่ามาร่วมสัมมนาฯ ในครั้งนี้ นับว่าเป็นนิมิตหมายอันดียิ่งที่จะได้ช่วยกันสร้างความเสมอภาคและความเป็นธรรมด้านการบริหารค่าจ้างและเงินเดือนให้เกิดขึ้นในตลาดแรงงานของประเทศไทยต่อไป
ทั้งนี้ การสัมมนาในครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 – 22 กุมภาพันธ์ 2566 มีตัวแทนจากสถานประกอบกิจการเข้าสัมมนา จำนวน 50 คน เพื่อนำความรู้ที่ได้รับไปจัดทำหรือปรับปรุงโครงสร้างค่าจ้างเงินเดือนให้เกิดประสิทธิผลอย่างเต็มที่ และช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง ทำให้ลูกจ้างมีขวัญและกำลังใจ สามารถทราบความก้าวหน้าสายอาชีพได้อย่างชัดเจน นายจ้างสามารถควบคุมต้นทุนด้านแรงงานและคาดการณ์ต้นทุนแรงงานในอนาคตได้
———————————
กองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์




















