Skip to main content

รองปลัดแรงงาน เปิดอบรมหลักสูตร “ผู้เฝ้าระวังไฟ ( Fire Watch Man)” จ.ปทุมธานี

รายละเอียดเนื้อหา

            วันที่ 10 พฤษภาคม 2566 เวลา 10.00 น. นายวรรณรัตน์ ศรีสุขใส รองปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานพิธีเปิดการอบรมหลักสูตร “ผู้เฝ้าระวังไฟ ( Fire Watch Man)” โดยมี คุณพันธุ์สิทธิ์ ขลิบทอง กรรมการผู้จัดการมูลนิธิอาชีวเวชศาสตร์ไทย/รพ.ซีเมด ลีฟวิ่งแคร์ ให้การต้อนรับ ณ ศูนย์วิจัยทางการแพทย์อาชีวเวชศาสตร์ไทย ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี โดยกล่าวว่า จากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2536 ที่โรงงานผลิตตุ๊กตาและของเด็กเล่นของ บริษัท เคเดอร์ อินดัสเทรียล (ไทยแลนด์) จำกัด ตั้งอยู่ที่อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นโรงงานขนาดใหญ่ มีลูกจ้างกว่า 2,000 คน มีอาคาร 5 ชั้น 4 อาคาร ขณะเกิดเหตุเป็นเวลาประมาณ 16.00 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้จากชั้นล่างของอาคารหลังหนึ่ง และได้ลุกลามขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากภายในโรงงานมีผ้าซึ่งเป็นวัสดุไวไฟจำนวนมาก ประกอบกับโรงงานนี้ไม่มีสัญญาณเตือนภัยทำให้ลูกจ้างที่ทำงานอยู่ชั้นบนไม่ทราบ อีกทั้ง เสียงจักรเย็บผ้ากลบเสียงภายนอก และเมื่อเพลิงไหม้ได้ประมาณ 15 นาที อาคารได้ถล่มลงมาทั้งหลัง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 188 คน บาดเจ็บอีก 469 คน และจากการสอบสวนก็ได้พบความบกพร่องของโรงงาน ที่ไม่มีมาตรฐานความปลอดภัยหลายประการ ซึ่งนอกจากไม่มีสัญญาณเตือนภัยแล้ว ยังไม่มีบันไดหนีไฟ ประตูออกฉุกเฉินแคบไม่ได้มาตรฐาน ไม่เคยมีการซ้อมการหนีไฟ และยังพบว่าโครงสร้างเหล็กของอาคารไม่ได้มาตรฐานอีกด้วย และในวันที่ 26 สิงหาคม 2540 คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบให้กำหนดวันที่ 10 พฤษภาคมของทุกปี เป็น “วันปลอดภัยในการทำงานแห่งชาติ” เพื่อให้ตระหนักถึงความปลอดภัยในการทำงานของทุกสาขาอาชีพเน้น “ปลอดภัยไว้ก่อน” เพื่อมิให้เหตุสลดใจอย่างกรณีโรงงานตุ๊กตาเคเดอร์เกิดขึ้นอีก

            ทั้งนี้ งานด้านความปลอดภัยในการทำงานของประเทศนั้น จะประสบความสำเร็จได้ต้องเกิดจากความร่วมมือในการสร้าง การพัฒนา การดำเนินการและการบริหารจัดการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานให้เกิดขึ้นอย่างเป็นระบบจากทุกภาคส่วน ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายต้องมีความตระหนักถึงความเสี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น การให้สำคัญของความปลอดภัยในสถานที่ การทำงานภายใต้สภาพแวดล้อมนั้นๆ รวมถึงการรู้เท่าทันถึงอันตรายที่มาควบคู่กับพัฒนาการทางเทคโนโลยีต่างๆ เราต้องมีการสร้างมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้อันตรายที่อาจเกิดขึ้นเหล่านั้นเกิดกับผู้ปฏิบัติงานให้ได้มากที่สุด และที่สำคัญมาก คือ การปฏิบัติตามมาตรการแนวทางความปลอดภัยที่ได้มีการกำหนดขึ้นที่สอดคล้องกับความเสี่ยงอันตรายนั้นๆ อย่างเหมาะสม จริงจัง เคร่งครัด จึงจะประสบผลสำเร็จ

            นายวรรณรัตน์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอขอบคุณประธานมูลนิธิอาชีวเวชศาสตร์ไทย และผู้บริหาร รพ.ซีเมดลิฟวิ่งแคร์ ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ สถานีดับเพลิง กู้ภัยสุทธิสาร ประธานชมรมเครือข่าย จป.พระนคร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพอร์เฟคเซฟตี้เทรนนิ่ง แอนด์คอนซัลติ้ง จํากัดและคณะผู้จัดการอบรมหลักสูตร “ผู้เฝ้าระวังไฟ ( Fire Watch Man)” ให้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อให้ผู้ร่วมอบรมมีความรู้เกี่ยวกับการเกิดและการป้องกันอัคคีภัยที่จะเกิดขึ้นจากการทำงาน เข้าใจขั้นตอน และวิธีการปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจากอัคคีภัย การใช้ การตรวจสอบ เครื่องดับเพลิงและอุปกรณ์ดับเพลิงได้อย่างถูกต้อง ซึ่งเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวและจำเป็นอย่างยิ่ง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะให้ความร่วมมือร่วมแรงกัน ขับเคลื่อนนโยบาย Safety & Healthy Thailand ร่วมกับกระทรวงแรงงานตามแนวทางประชารัฐ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการทำงาน และพัฒนาจนเป็นวัฒนธรรมความปลอดภัยในการทำงานขึ้นในสังคมไทย เพื่อให้คนไทยมีความมั่นคงและปลอดภัยอย่างแท้จริง

———————————

กองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์

TOP