Skip to main content

สื่อทางการ(https://www.news.gov.hk/eng และ https://www.info.gov.hk/gia/general) แจ้งข่าวที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียดเนื้อหา

สื่อทางการ(https://www.news.gov.hk/eng และ https://www.info.gov.hk/gia/general) แจ้งข่าวที่เกี่ยวข้อง ดังนี้

๑) ทางการฮ่องกงกำหนดให้ประเทศโรมาเนียเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงในการระบาดของเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๖๓ เป็นต้นไป โดยกำหนดเงื่อนไขให้ผู้ที่เดินทางจากโรมาเนียภายในระยะเวลา ๑๔ วันก่อนเดินทางเข้าฮ่องกงต้องแสดงเอกสารที่แสดงว่าปลอดเชื้อ โควิด-19  และมีการจองโรงแรมในฮ่องกง ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีข้อกำหนดดังกล่าวใช้บังคับกับผู้ที่เดินทางมาจากประเทศบังกลาเทศ เบลเยียม เอกวาดอร์ เอธิโอเปีย ฝรั่งเศส เยอรมันอินเดีย อินโดนีเซีย คาซัคสถาน เนปาล ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ รัสเซีย แอฟริกาใต้ ตุรกี สหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา โดยผู้ที่เดินทางจากประเทศตามที่ระบุ ภายในระยะเวลา ๑๔ วันก่อนเดินทางเข้าฮ่องกง ต้องแสดงผลการตรวจเชื้อโควิดที่เป็นลบ และต้องแสดงใบจองโรงแรมในฮ่องกงไม่น้อยกว่า ๑๔ คืน

) ทางการฮ่องกง ประกาศเพิ่มความเข้มงวดของมาตรการการรักษาระยะห่างทางสังคม ดังนี้

    ๒.๑) สถานที่จัดเลี้ยงและสถานที่ที่กำหนดตามประกาศ เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ ๒-๑๕ ธันวาคม๒๕๖๓ เป็นเวลา ๑๔ วัน

           ๒.๑.๑) ร้านอาหารต้องหยุดขายอาหารหรือเครื่องดื่มเพื่อการบริโภคในร้าน ตั้งแต่เวลา ๒๒.๐๐ น. ถึง ๐๔.๕๙ น.ของวันถัดไป โดยอนุญาตการซื้อกลับบ้านและบริการจัดส่ง

           ๒.๑.๒) อนุญาตให้นั่งรวมกันได้ไม่เกินคนในโต๊ะเดียวกัน

           ๒.๑.๓) ให้ปิดศูนย์เกม สถานบันเทิงทั่วไป สถานบันเทิงสาธารณะทั้งหมด รวมถึงพิพิธภัณฑ์ โรงภาพยนตร์และสวนสนุก (ยกเว้นสถานที่จัดแสดง) คาราโอเกะ สถานที่เล่นไพ่นกกระจอก สระว่ายน้ำ บาร์ ผับ โรงอาบน้ำ คลับหรือไนต์คลับและสถานที่จัดงานปาร์ตี้

           ๒.๑.๔) ผู้ที่ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาในร่มต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา (ยกเว้นเมื่ออาบน้ำหรือดื่ม) ไม่อนุญาตให้มีการรวมกลุ่มเกินคนในกลุ่มการฝึกอบรมหรือเรียน

           ๒.๑.๕) ผู้ที่อยู่ในสถานเสริมความงามและสถานบริการนวดต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา (ยกเว้นเมื่อมีการทำทรีทเมนท์ใบหน้า) ไม่อนุญาตให้มีบุคคลเกินคนในแต่ละพื้นที่ของการให้บริการ  หรือมีการกั้นพาร์ติชั่น อนุญาตให้ใช้บริการแบบตัวต่อตัวเท่านั้น

           ๒.๑.๖ ) อนุญาตเปิดสถานบันเทิงสาธารณะสำหรับการแสดงโดยผ่านทางระบบออนไลน์ นักแสดงต้องสวมหน้ากากเท่าที่จะทำได้

           ๒.๑.๗) กำหนดจำนวนลูกค้าในร้านอาหารต้องไม่เกินร้อยละ ๕๐ ของความจุของที่นั่งปกติ ไม่ทานอาหารหรือเครื่องดื่มและต้องสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่นอกโต๊ะ ไม่อนุญาตให้มีการแสดงและเต้นรำในร้านอาหาร ห้องประชุมหรือห้องจัดเลี้ยงของคลับเฮาส์ กำหนดจำนวนผู้ร่วมงานเลี้ยงไม่เกิน ๔๐ คน สถานที่จัดเลี้ยงและสถานที่ที่กำหนดตามประกาศต้องแสดงรหัส QR Code ของ “LeaveHomeSafeที่ทางเข้าหรือในตำแหน่งที่เห็นชัดเจน และอนุญาตให้บุคคลไม่เกิน     ๔ คนพักในห้องพักหรือห้องเช่าในโรงแรม / เกสต์เฮาส์ บริการของห้องอบไอน้ำ ห้องซาวน่าและบ่อบอลยังคงปิดต่อไปและมาตรการที่เกี่ยวข้องกับคลับเฮ้าส์ยังคงเดิม

       ทั้งนี้ มีบทกำหนดโทษสำหรับผู้ที่รับผิดชอบในการดำเนินธุรกิจร้านอาหารและผู้จัดการของสถานที่ตามที่กำหนดไว้ หากฝ่าฝืนมาตรการดังกล่าวถือเป็นความผิดทางอาญา จะถูกปรับสูงสุด ๕๐,๐๐๐ เหรียญฮ่องกง หรือประมาณ ๒๐๐,๐๐๐ บาท และจำคุกเป็นเวลาเดือน

    ๒.๒) ข้อกำหนดในการสวมหน้ากากอนามัยให้ขยายออกไปเป็นเวลา ๑๔ วันตั้งแต่วันที่ – ๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๓ ในช่วงเวลาดังกล่าว บุคคลจะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่ออยู่ในระบบขนส่งสาธารณะ หรือพื้นที่ชำระเงินของ MTR หรือในสถานที่สาธารณะตามที่ระบุไว้

          หากมีผู้ไม่สวมหน้ากากอนามัยตามข้อกำหนด เจ้าหน้าที่จะไม่ให้ใช้บริการ/หรือขึ้นรถหรือเข้าไปในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องรวมทั้งให้บุคคลนั้นสวมหน้ากากและลงจากพาหนะ หรือออกจากพื้นที่ดังกล่าว ผู้ที่ฝ่าฝืนจะมีโทษสูงสุดคือปรับระดับ เป็นเงินจำนวน ๕,๐๐๐ เหรียญฮ่องกง หรือประมาณ ๒๐,๐๐๐ บาท นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ที่ได้รับอนุญาตอาจออกประกาศบทลงโทษผู้ที่ไม่สวมหน้ากากอนามัยเป็นค่าปรับคงที่ ๒,๐๐๐ เหรียญฮ่องกง หรือประมาณ ๘,๐๐๐ บาท

     ๒.๓) ข้อกำหนดในการรวมกลุ่ม จะได้ประกาศต่อไป

 ๓) ทางการฮ่องกงประกาศจะเพิ่มค่าปรับมากกว่า ๒,๐๐๐ เหรียญ หรือมากกว่า ๘,๐๐๐ บาท สำหรับผู้ฝ่าฝืนมาตรการการรักษาระยะห่างทางสังคม เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักและร่วมกันป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส นอกจากนี้จะจัดตั้งสายด่วนสำหรับประชาชนเพื่อรายงานการละเมิดมาตรการการรักษาระยะห่างทางสังคมด้วย

 ๔) ทางการฮ่องกงจะขยายมาตรการช่วยเหลือประชาชนที่เป็นผู้ว่างงานและประสบปัญหาทางการเงิน ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๔ นี้ โดยขยายออกไปอีก ๖ เดือน ผ่านระบบ CSSA อันเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการต่อต้านการแพร่ระบาดของไวรัส  

TOP