วันที่ 23 กรกฎาคม 2568 เวลา 11.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นประเทศมาเลเซีย นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายศักดินาถ สนธิศักดิ์โยธิน ผู้ช่วยปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายโกเมศ ปิยะพันธุ์ ผู้ตรวจราชการ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน นางสาวธารินี ลิ่มจุฬารัตน์ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) สำนักงานแรงงานในประเทศมาเลเซีย และคณะ หารือร่วมกับ Mr. Raja Mohd Nizam bin Raja Kamarulbahrin ผู้อำนวยการสำนักต่างประเทศ กระทรวงทรัพยากรมนุษย์ ใน ประเด็นความร่วมมือด้านการคุ้มครองแรงงานไทยในมาเลเซีย การส่งเสริมความร่วมมือเพื่อการพัฒนาด้านแรงงาน ตลอดจน การทบทวนบันทึกความเข้าใจด้านการจัดหางาน ณ ประเทศมาเลเซีย
นายศักดินาถ สนธิศักดิ์โยธิน ผู้ช่วยปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจากปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นผู้แทนในการหารือเพื่อขับเคลื่อนความร่วมมือด้านแรงงานในครั้งนี้ กระทรวงแรงงานมีเป้าหมายส่งเสริมการจ้างงานในต่างประเทศ จำนวน 100,000 ราย จึงได้มีการจัดกิจกรรม Mol Overseas Matching ระหว่างสถานประกอบการที่ต้องการแรงงาน กับบริษัทจัดหางานของไทยที่ส่งแรงงานไทยมาทำงานในต่างประเทศ ซึ่งกระทรวงแรงงานได้มีการจัดกิจกรรม Mol Overseas Matching มาแล้ว 5 ประเทศ และมีเป้าหมายจะจัดกิจกรรม Mol Overseas Matching ให้ครบทุกประเทศที่มีความต้องการแรงงานไทย ครั้งนี้กระทรวงแรงงานก็ได้มีการจัดกิจกรรม Mol Overseas Matching ขึ้น ณ ประเทศมาเลเซีย โดยกระทรวงเล็งเห็นตลาดแรงงานในภาคบริการนวดสปาในประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นแรงงานฝีมือที่แรงงานไทยมีศักยภาพมาก นอกจากนี้ยังเห็นถึงโอกาสในการสร้างความร่วมมือร่วมกัน
นายศักดินาถ กล่าวต่อว่า กระทรวงทรัพยากรมนุษย์มีภารกิจเกี่ยวกับการว่าจ้างและการคุ้มครองดูแลสวัสดิภาพของแรงงาน ตลอดจนการจัดการและพัฒนาแรงงานของประเทศมาเลเซีย เช่นเดียวกับกระทรวงแรงงานของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตรวจสอบนายจ้างที่แจ้งความต้องการจ้างแรงงานต่างชาติเพื่อให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบและเงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งจะทำให้แรงงานต่างชาติ โดยเฉพาะแรงงานไทยที่เข้ามาทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ได้รับการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ ที่ระบุไว้ในตัวบทกฎหมาย การหารือในครั้งนี้จึงเป็นโอกาสดีที่หน่วยงานด้านการคุ้มครองแรงงานของทั้งสองประเทศ จะได้มีความร่วมมือและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกันด้านการคุ้มครองแรงงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและส่งเสริมด้านการคุ้มครองแรงงานระหว่างกันมากยิ่งขึ้น รวมถึงการส่งเสริมความร่วมมือเพื่อการพัฒนาด้านแรงงานผ่านความร่วมมือด้านวิชาการเกี่ยวกับ การคุ้มครอง แรงงาน ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อมในการทำงาน รวมทั้งระบบประกันสังคม โดยผ่านคณะทำงานร่วมไทย – มาเลเซียว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงาน Joint Working Group (JWG) on Promoting Labour Cooperation และ การทบทวนบันทึกความเข้าใจด้านการจัดหางาน ซึ่งไทยมีความพร้อมที่จะร่วมมือในการจัดทำ MOU ด้านแรงงาน กับมาเลเซีย ให้ครอบคลุมในทุกบริบทของกฎหมายทั้งสองประเทศ เพื่อประโยชน์ในการบริหารแรงงานต่างชาติทั้งต่อประเทศมาเลเซียและประเทศไทย
“ขอขอบคุณผู้อำนวยการสำนักต่างประเทศ ที่ให้เกียรติ เข้าพบเพื่อหารือร่วมกันในวันนี้ กระทรวงแรงงานพร้อมให้การช่วยเหลือ และประสานงานในด้านแรงงานระหว่างกัน และหวัง เป็นอย่างยิ่งว่า ความร่วมมือของเราจะได้เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการในอนาคต อันใกล้นี้และพัฒนาต่อไปอย่างแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ” นายศักดินาถ กล่าว
+++++++++++++++++++
กองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์
