รมว.แรงงาน ต้อนรับ ออท.ยุโรป ชื่นชมรัฐบาลไทยออก พ.ร.ก. แรงงานต่างด้าวฉบับใหม่ จุดเริ่มต้นที่ดีในการส่งเสริมสิทธิแรงงานต่างด้าวตามกฎหมาย พร้อมยินดีจัดทำโครงการความร่วมมือกับกระทรวงแรงงานในอนาคต
พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้การต้อนรับ นายปีร์กะ ตาปีโอละ (Mr.Pirkka Tapiola) เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย และคณะ เข้าเยี่ยมคารวะและหารือกรอบความร่วมมือด้านแรงงานระหว่างประเทศไทยกับสหภาพยุโรป ณ ห้องรับรองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ชั้น 6 อาคารกระทรวงแรงงาน โดยกล่าวว่า รัฐบาลได้มุ่งมั่นจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวตั้งแต่การบูรณาการเพื่อพิสูจน์สัญชาติ ซึ่งปัจจุบันแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 3.8 ล้านคน เป็นแรงงานที่เข้ามาอย่างถูกต้องด้วยระบบ MOU ประมาณ 2 ล้านคน และเข้ามาอย่างไม่ถูกต้องประมาณ 1.8 ล้านคน ขณะนี้ยังมีแรงงานต่างด้าวที่รอเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สัญชาติอีกประมาณ 7 แสนคน ซึ่งประเทศต้นทางได้จัดเจ้าหน้าที่มาทำการพิสูจน์สัญชาติให้แล้วเสร็จภายใน 30 มิ.ย.61 ส่วนการสแกนม่านตาเพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์ตัวบุคคลแรงงานต่างด้าวในกิจการประมงทะเล แปรรูปสัตว์น้ำ และที่เกี่ยวข้อง ประมาณ 160,000 คน ขณะนี้ยังเหลืออีกประมาณ 2,600 คนซึ่งจะดำเนินการแล้วเสร็จทัน 31 มีนาคมนี้ ส่วนการจัดทำทะเบียนประวัติ ณ ศูนย์ OSS ซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งแต่ 5 ก.พ. – 31 มี.ค.61 จากแรงงานต่างด้าวทั้งหมด 1.6 ล้านคน ขณะนี้ยังเหลือแรงงานต่างด้าวอีกประมาณ 8 แสนคนที่จะต้องมาดำเนินการ ซึ่งกระทรวงแรงงานได้เพิ่มช่องทางโดยเปิดศูนย์รับรายงานตัวแรงงานต่างด้าวออนไลน์เพื่อให้แรงงานต่างด้าวได้รายงานตัวทันตามกำหนด และเข้าสู่ระบบการคุ้มครองตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.อ.อดุลย์ฯ กล่าวว่า ขอให้เชื่อมั่นว่ารัฐบาลชุดนี้ได้ให้ความสำคัญกับหลักสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาคเท่าเทียม และการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ซึ่งได้ทำงานร่วมกับหลายหน่วยงานเพื่อให้เกิดการบูรณาการอย่างมีเอกภาพ โดยนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้มากและได้ลงมากำกับและขับเคลื่อนด้วยตนเอง
จากการหารือในครั้งนี้ เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย ได้กล่าวชื่นชมรัฐบาลไทยโดยเฉพาะการออกพระราชกำหนดฉบับใหม่ในการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว รวมทั้งการพิสูจน์สัญชาติแรงงานต่างด้าว ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมสิทธิของแรงงานต่างด้าวตามกฎหมาย และจะเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและสหภาพยุโรป รวมทั้งยินดีที่จะจัดทำโครงการร่วมกันกับกระทรวงแรงงานในอนาคตอีกด้วย
———————–
กลุ่มงานโฆษกและการข่าว/
กองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์/
ชนินทร เพ็ชรทับ – ข่าว/
สมภพ ศีลบุตร – ภาพ/
26 มีนาคม 2561