รมว.แรงงาน ร่วมเป็นเกียรติในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการประสานความร่วมมือโครงการประชารัฐ ร่วมสร้างงาน สร้างอาชีพผู้ต้องขัง ระหว่างกรมการจัดหางาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมราชราชทัณฑ์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพิ่มโอกาสและคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้ต้องขัง คืนคนดีสู่สังคม
วันที่ 26 มีนาคม 2561 เวลา 11.00 น. พล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยนายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน และคณะผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ร่วมเป็นเกียรติในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการประสานความร่วมมือโครงการประชารัฐ ร่วมสร้างงาน สร้างอาชีพผู้ต้องขัง ระหว่างกรมการจัดหางาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมราชราชทัณฑ์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ณ ทัณฑสถานบำบัดพิเศษ จังหวัดปทุมธานี โดย พล.ต.อ. อดุลย์ฯ กล่าวว่า ภารกิจของกระทรวงแรงงานมีหน้าที่ในการบริหารกำลังแรงงานให้มีความพร้อมในการทำงาน เพื่อให้แรงงานมีทักษะฝีมือ มีศักยภาพ มีความรู้ความสามารถตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน และรองรับ Thailand 4.0 ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ให้มีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน การดำเนินงานในครั้งนี้ เป็นการทำงานในรูปแบบประชารัฐ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล จากความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ กรมการจัดหางาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และกรมราชทัณฑ์ ร่วมกับภาคเอกชน ได้แก่ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างโอกาสและคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้ต้องขัง โดยผ่านกระบวนการฝึกอบรมวิชาชีพ จริยธรรม ให้โอกาสผู้กระทำผิดได้ปรับปรุงตนเอง สามารถประกอบอาชีพอิสระ เพื่อหารายได้เลี้ยงดูตนเองและครอบครัวภายหลังจากพ้นโทษ และแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานในบางสาขาอาชีพ อันเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งส่งเสริมคนดีคืนสู่สังคม
“โครงการนี้มีเป้าหมายการดำเนินงานกับผู้ต้องขัง จำนวน 37,000 คน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มแรก ซึ่งเป็นนักโทษชั้นดี จำนวน 27,000 คน จะเตรียมความพร้อมด้านอาชีพก่อนพ้นโทษตามความต้องการของผู้ต้องขัง เพื่อเพิ่มเติมความรู้ รวมทั้งทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ซึ่งกรมราชทัณฑ์จะจัดทำฐานข้อมูลผู้ต้องขัง อำนวยความสะดวกด้านสถานที่ฝึกอบรมและปฏิบัติงาน กำหนดขั้นตอนการดำเนินการรับชิ้นงานไปผลิตในเรือนจำ เพื่อจัดจำหน่ายและสร้างรายได้แก่ผู้ต้องขัง รวมถึงส่งผู้ต้องขังไปฝึกทักษะในสถานประกอบการ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย จะทำหน้าที่ประสานงานกับสถานประกอบการ/นายจ้าง ให้มาเข้าร่วมโครงการฯ กลุ่มที่สอง เป็นกลุ่มผู้ใกล้พ้นโทษ จำนวน 10,000 คน โดยจะสำรวจความต้องการและคัดแยกผู้ที่ต้องการทำงานในสถานประกอบการและต้องการประกอบอาชีพอิสระ โดยกรมการจัดหางานจะบริการจัดหางานและส่งเสริมการประกอบชีพอิสระ จากนั้นจะมีการติดตามประเมินผลเป็นระยะ” พล.ต.อ. อดุลย์ฯ กล่าวในท้ายที่สุด
—————————————
กองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์/ดาวนภา เนาวรังษี – ข่าว/สมภพ ศีลบุตร – ภาพ/26 มีนาคม 2561