วันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 เวลา 15.00 น. นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นายสมชาย มรกตศรีวรรณ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการจัดหางาน นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทน อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และผู้บริหารกระทรวงแรงงาน เดินทางไปยังสำนักงานบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมบริการธุรกิจร้านอาหาร และบริการฟาสต์ฟู้ดที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก โดยเป็นเจ้าของแบรนด์ดัง ทั้งในส่วนของโรงแรมและธุรกิจอาหาร ซึ่งมีสาขาอยู่ทั่วโลก
นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ขอขอบคุณผู้บริหารไมเนอร์กรุ๊ป ที่ได้สนับสนุนโครงการมีงาน มีเงิน มีวุฒิการศึกษา มานานกว่า 10 ปี โดยมีนักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ได้เข้าทำงานระหว่างเรียนโดยได้รับทุนการศึกษา เข้าร่วมโครงการแล้วจำนวน 6,000 คน และในปี 2569 ตั้งเป้าที่จะนำนักเรียนเข้าโครงการ จำนวน 800 คน และขอบคุณที่ได้ให้ความสำคัญกับคน หน้าที่ของเราคือ หางานให้คน หาคนให้งาน การมาพบด้วยตนเองในครั้งนี้ เพราะอยากฟังความต้องการจากกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่อย่างไมเนอร์ ว่าต้องการทรัพยากรบุคคลแบบใดเพื่อจะได้ matching กันให้ตรงมากขึ้น เพื่อขยายโอกาสด้านตลาดแรงงานสำหรับคนไทยให้มากขึ้นด้วย
ด้านนายสมชาย มรกตศรีวรรณ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า ขอให้บริษัทไมเนอร์ ช่วยสานต่อโครงการที่ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากมีสาขาอยู่ต่างประเทศ จำนวนมาก อาจจะสามารถเปิดกว้างในการรับคนไทยเข้าทำงานในธุรกิจของไมเนอร์ในต่างประเทศได้ ซึ่งขณะนี้ มีคนที่หางานอยู่ในระบบของกระทรวงแรงงานประมาณ 5,000 – 6,000 คน
ด้านนางอรกานดา อรรถวิภัชน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธุรกิจของไมเนอร์ มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมในต่างประเทศ แต่ข้อจำกัดของการรับคน คือ เรื่องการพัฒนาทักษะ โดยเฉพาะทักษะทางดิจิตัล ทักษะภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาจีน ในงานบริการ ซึ่งอยากให้ทางกระทรวงแรงงานช่วยพัฒนาทักษะเหล่านี้ให้ตอบโจทย์กับตลาดงานที่มีอยู่ รวมถึงการประสานที่จะนำคนไทยไปทำงานในยุโรปซึ่งค่อนข้างมีข้อจำกัดอยู่มาก
ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้ให้ข้อมูลว่า ได้พูดคยกับทูตอิตาลีมาก่อนหน้านี้ ซึ่งอาจจะได้เริ่มต้นกับทางอิตาลีก่อนในส่วนของประเทศในแถบอียู เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในลิสต์ที่ได้รับอนุญาตให้ไปทำงานในประเทศอิตาลีอย่างถูกต้องได้แล้ว
#JOBHunter #คนไทยต้องมีงานทำ




















