รมว.แรงงาน เปิด “โครงการประชุมชี้แจงการจ่ายเงินค่าบริการทางการแพทย์และการตรวจสอบข้อมูลการใช้บริการทางการแพทย์ของสถานพยาบาลประกันสังคมทั้งภาครัฐบาลและเอกชน”

          รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ประธานเปิด “โครงการประชุมชี้แจงการจ่ายเงินค่าบริการทางการแพทย์และการตรวจสอบข้อมูลการใช้บริการทางการแพทย์ของสถานพยาบาลประกันสังคมทั้งภาครัฐบาลและเอกชน”  เพื่อให้การดูแลด้านการรักษาพยาบาลของผู้ประกันตนได้รับการบริการที่ดี มีคุณภาพ

          วันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ เวลา ๐๘.๓๐ น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุม “โครงการประชุมชี้แจงการจ่ายเงินค่าบริการทางการแพทย์และการตรวจสอบข้อมูลการใช้บริการทางการแพทย์ของสถานพยาบาลประกันสังคมทั้งภาครัฐบาลและเอกชน” โดยมี นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูงสังกัดกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมในพิธีเปิดการประชุม ณ ห้องประชุมจอมพล ป.พิบูลสงคราม กระทรวงแรงงาน

          รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาลภายใต้การบริหารประเทศของท่าน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และท่าน พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงานได้ให้ความสำคัญในการดูแลพี่น้องผู้ใช้แรงงาน ให้ได้รับการคุ้มครองได้รับสิทธิอย่างเท่าเทียมกัน สถานพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชนเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงานในการขับเคลื่อนภารกิจในการดูแลผู้ประกันตนให้มีสุขภาพแข็งแรงที่พร้อมเป็นพลังในการนำพาประเทศก้าวไปข้างหน้า โดยที่ผ่านมา สำนักงานประกันสังคมมีการพัฒนา ปรับปรุงระบบการรายงานข้อมูล การใช้บริการทางการแพทย์ และการจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อไม่เป็นภาระในการบริหารงานของสถานพยาบาล เมื่อมีการจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ให้กับสถานพยาบาลเร็วขึ้นแล้ว จำเป็นต้องมีการตรวจสอบข้อมูลการใช้บริการทางการแพทย์ด้วย ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการกำกับดูแลที่ดี เพื่อความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ทั้งนี้ ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย คือ ผู้ประกันตนได้ประโยชน์ในด้านความถูกต้องของประวัติการเข้ารับการรักษาพยาบาล สถานพยาบาลมีข้อมูล   การรักษาพยาบาล ด้านการบันทึกเวชระเบียนที่ถูกต้อง ชัดเจน ส่วนสำนักงานประกันสังคมก็จะสามารถจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสม ตลอดจนนำข้อมูลมาใช้เพื่อวางแผนด้านสุขภาพ การส่งเสริมสุขภาพให้แก่ผู้ประกันตนในอนาคตและสุดท้ายประเทศได้ประโยชน์จากการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศ ด้านสุขภาพจากระบบประกันสุขภาพ

++++++++++++++++++++++++++++++

กองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์

27 พฤศจิกายน 2563