Skip to main content

labourqa

Forum Replies Created

กำลังดู 15 ข้อความ - 16 ผ่านทาง 30 (ของทั้งหมด 384)
  • Author
    Posts
  • in reply to: การทดลองงาน #364590
    labourqa 364590

    เรียน คุณ Patsawan
    กรณีของท่านถ้านายจ้างและลูกจ้างมีการตกลงเรื่องการปรับค่าจ้างหรือเงินเดือนกันแล้ว ลูกจ้างจะมีสิทธิได้รับค่าจ้างที่ถูกปรับแล้วย้อนหลังจากนายจ้าง จำนวน 2 เดือน ซึ่งเงินดังกล่าวจะไม่ใช่เงินชดเชย เนื่องจากเงินชดเชยจะจ่ายให้ลูกจ้างในกรณีถูกเลิกจ้างโดยไม่มีความผิดเท่านั้น หากท่านยังทำงานเป็นลูกจ้างอยู่ กรณีดังกล่าวอาจหมายความได้ว่าท่านจะต้องได้รับค่าจ้างที่ปรับอัตราใหม่แล้วจากนายจ้าง

    in reply to: ขอคำปรึกษา #364456
    labourqa 364456

    เรียน คุณนายสำเร็จ

    สัญญาจ้างทดลองงานเป็นสัญญาจ้างที่ไม่มีกำหนดระยะเวลา นายจ้างหรือลูกจ้างอาจบอกเลิกสัญญาจ้างโดยบอกกล่าวล่วงหน้าเป้นหนังสือให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบ เมื่อถึงหรือก่อนจะถึงกำหนดจ่ายค่าจ้างคราวหนึ่งคราวใด เพื่อให้เป็นผลเลิกสัญญากันเมื่อถึงกำหนดจ่ายค่าจ้างคราวถัดไปข้างหน้าก็ได้ แต่ไม่จำต้องบอกกล่าวล่วงหน้าเกินสามเดือน ทั้งนี้ ลูกจ้างมีสิทธิได้รับค่าชดเชยตามวันที่ทำงานจริง หากนายจ้างเลิกจ้างโดยลูกจ้างไม่มีความผิด ดังนี้
    1.1 ลูกจ้างซึ่งทำงานติดต่อกันครบ 120 วัน แต่ไม่ครบ 1 ปี มีสิทธิได้รับค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย 30 วัน
    1.2 ลูกจ้างซึ่งทำงานติดต่อกันครบ 1 ปี แต่ไม่ครบ 3 ปี มีสิทธิได้รับค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย 90 วัน
    1.3 ลูกจ้างซึ่งทำงานติดต่อกันครบ 3 ปีแต่ไม่ครบ 6 ปี มีสิทธิได้รับค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย 180 วัน
    1.4 ลูกจ้างซึ่งทำงานติดต่อกันครบ 6 ปี แต่ไม่ครบ 10 ปี มีสิทธิ์ได้รับค่าชดเชยเท่ากับอัตราค่าจ้างสุดท้าย 240 วัน
    1.5 ลูกจ้างซึ่งทำงานติดต่อกันครบ 10 แต่ไม่ครบ 20 ปี มีสิทธิ์ได้รับค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย 300 วัน
    1.6 ลูกจ้างซึ่งทำงานติดต่อกันครบ 20 ปีขึ้นไป มีสิทธิ์ได้รับค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย 400 วัน

    รายละเอียดเพิ่มเติม https://lb.mol.go.th/%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99/%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99

    สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม (ในวันเวลาราชการ) สำนักคุ้มครองแรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ถนนมิตรไมตรี เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร 10400 โทรศัพท์ 0 2246 0801 โทรสาร 0 2245 0998 http://protection.labour.go.th/

    หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมตามที่กฎหมายกำหนด ให้ติดต่อ พนักงานตรวจแรงงาน ณ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานพื้นที่/จังหวัดที่ท่านทำงานหรือที่สถานประกอบกิจการตั้งอยู่
    รายละเอียดเบอร์โทรศัพท์และที่ตั้งสำนักงาน เพื่อติดต่อ พนักงานตรวจแรงงาน มีดังนี้
    สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10
    https://www.labour.go.th/index.php/contact/contact-m1
    สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด
    https://www.labour.go.th/index.php/contact/contact-m2

    in reply to: ขอคำปรึกษา #364455
    labourqa 364455

    เรียน คุณดา

    ในกรณีหากใช้สิทธิลากิจธุระอันจําเป็นตามพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2562 กําหนดให้ลูกจ้างมีสิทธิลาเพื่อกิจธุระอันจําเป็น โดยได้รับค่าจ้างไม่น้อยกว่า 3 วันทํางานต่อปี แต่การลากิจนั้นให้เป็นไปตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทํางานของนายจ้าง
    ส่วนการลาที่เกิน 3 วัน นายจ้างอาจจะอนุมัติให้ลาหรือไม่ก็ได้ แต่หากอนุมัติให้ลา นายจ้างมีสิทธิไม่จ่ายค่าจ้างส่วนที่เกิน 3 วันได้ (ลูกจ้างทุกประเภท รายเดือน รายวัน เหมา ทดลองงาน ลากิจ นายจ้างจ่ายค่าจ้าง) ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2562 มาตรา 34 , มาตรา 57/1

    หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมตามที่กฎหมายกำหนด ให้ติดต่อ พนักงานตรวจแรงงาน ณ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานพื้นที่/จังหวัดที่ท่านทำงานหรือที่สถานประกอบกิจการตั้งอยู่
    รายละเอียดเบอร์โทรศัพท์และที่ตั้งสำนักงาน เพื่อติดต่อ พนักงานตรวจแรงงาน มีดังนี้
    สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10
    https://www.labour.go.th/index.php/contact/contact-m1
    สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด
    https://www.labour.go.th/index.php/contact/contact-m2

    labourqa 362611

    เรียนคุณ รัตนาภรณ์
    มาตรา 32 ให้ลูกจ้างมีสิทธิลาป่วยได้เท่าที่ป่วยจริงฯ
    พรบ.คุ้มครองแรงงาน ไม่ได้มีการกำหนดนิยามคำว่า “วันลาป่วย” หรือ “ป่วย” ไว้ แต่อย่างใด จึงต้องพิจารณาความหมาย ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ ซึ่งได้ให้ความหมายของคำว่า “ป่วย” หมายถึง รู้สึกไม่สบายเพราะโรคหรือความไข้ หรือเหตุอื่นใดที่ทำให้รู้สึกเช่นนั้น ทั้งนี้ประกอบกับกฎหมายมีเจตนารมณ์ ในการกำหนดวันลาป่วยเพื่อให้ลูกจ้างได้มีโอกาสหยุดพักรักษาตัวในขณะที่เจ็บป่วย เพื่อให้สุขภาพฟื้นคืน สภาพเดิมพร้อมที่จะกลับมาทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตามปกติ

    แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับกฎระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการลาของบริษัทด้วยค่ะว่ามีการระบุอะไรไว้นอกเหนือจากกฎหมายบ้าง

    อ้างอิงจากข้อหารือ : https://legal.labour.go.th/attachments/article/167/60_00008.pdf

    หากต้องการสอบถามเพิ่มเติม เพื่อให้ได้คำตอบที่ชัดเจน สามารถติดต่อพนักงานตรวจแรงงานในพื้นที่ที่ทำงาน
    รายละเอียดเบอร์โทรศัพท์และที่ตั้งสำนักงาน เพื่อติดต่อ พนักงานตรวจแรงงาน มีดังนี้ค่ะ
    สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10
    https://www.labour.go.th/index.php/contact/contact-m1
    สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด
    https://www.labour.go.th/index.php/contact/contact-m2

    in reply to: ขอคำปรึกษา #361066
    labourqa 361066

    เรียนคุณ ธนากร วงษ์มา เรื่องที่ท่านสอบถามมานั้น ขอแยกเป็นประเด็น ดังนี้
    ประเด็นที่ 1 เรื่องการหักค่าจ้าง 10 วันนั้น นายจ้างไม่สามารถดำเนินการได้เพราะขัดกฎหมาย ม.76 ครับ
    ประเด็นที่ 2 ค่าจ้างที่ลูกจ้างทำงานมาแล้ว 10 วัน ยังไงก็ต้องได้รับครับ แต่ต้องเป็นไปตามงวดการจ่ายค่าจ้างปกติของนายจ้างและตามวิธีปกติ เช่น นายจ้างคำนวณค่าจ้างจากการทำงานตั้งแต่วันที่ 26 ของเดือนที่ผ่านมา ถึงวันที่ 25 ของเดือนปัจจุบัน จ่ายค่าจ้างทุกวันสิ้นเดือนโดยการโอนผ่านธนาคารนั้น สมมุติว่าลูกจ้างทำงานมาถึงวันที่ 30 กันยายน 2565 แล้วลาออกเลย นายจ้างจะต้องจ่ายค่าจ้างรอบการทำงาน 21-25 กันยายน 2565 ในวันที่ 30 กันยายน 2565 และ วันที่ 26-30 กันยายน 2565 ต้องจ่ายวันที่ 31 ตุลาคม 2565 หากเลยวันดังกล่าวสามารถยื่นคำร้องทุกข์นายจ้างค้างจ่ายค่าจ้างพร้อมดอกเบี้ยได้ แต่การลาออกไม่ถูกต้องหากนายจ้างได้รับความเสียหายมีสิทธิ์ฟ้องเรียกค่าเสียหายการผิดสัญญาจ้างได้ครับ

    ถ้าท่านไม่ได้รับความเป็นธรรมเกี่ยวกับกฎหมายแรงงาน ท่านสามารถร้องเรียนหรือร้องทุกข์ได้ ณ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด 76 จังหวัด หรือ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือร้องผ่านระบบ E-Service ของกรมได้ที่ https://www.labour.go.th/index.php/e-services หากท่านประสงค์สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎหมายแรงงาน ท่านสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่…กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ติดต่อได้หลายช่องทาง
    1. สายด่วนโทร 1506 กด 3
    2. สายด่วน 1546
    3. ติดติด สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด/ กรุงเทพฯ หมายเลขโทรศัพท์ จากเว็บไซต์ http://www.labour.go.th เมนูติดต่อกรม เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ที่ท่านทำงาน หรือจังหวัดของท่าน

    in reply to: ขอคำปรึกษา #361065
    labourqa 361065

    เรียนคุณ ธนากร วงษ์มา เรื่องที่ท่านสอบถามมานั้น ขอแยกเป็นประเด็น ดังนี้
    ประเด็นที่ 1 เรื่องการหักค่าจ้าง 10 วันนั้น นายจ้างไม่สามารถดำเนินการได้เพราะขัดกฎหมาย ม.76 ครับ
    ประเด็นที่ 2 ค่าจ้างที่ลูกจ้างทำงานมาแล้ว 10 วัน ยังไงก็ต้องได้รับครับ แต่ต้องเป็นไปตามงวดการจ่ายค่าจ้างปกติของนายจ้างและตามวิธีปกติ เช่น นายจ้างคำนวณค่าจ้างจากการทำงานตั้งแต่วันที่ 26 ของเดือนที่ผ่านมา ถึงวันที่ 25 ของเดือนปัจจุบัน จ่ายค่าจ้างทุกวันสิ้นเดือนโดยการโอนผ่านธนาคารนั้น สมมุติว่าลูกจ้างทำงานมาถึงวันที่ 30 กันยายน 2565 แล้วลาออกเลย นายจ้างจะต้องจ่ายค่าจ้างรอบการทำงาน 21-25 กันยายน 2565 ในวันที่ 30 กันยายน 2565 และ วันที่ 26-30 กันยายน 2565 ต้องจ่ายวันที่ 31 ตุลาคม 2565 หากเลยวันดังกล่าวสามารถยื่นคำร้องทุกข์นายจ้างค้างจ่ายค่าจ้างพร้อมดอกเบี้ยได้ แต่การลาออกไม่ถูกต้องหากนายจ้างได้รับความเสียหายมีสิทธิ์ฟ้องเรียกค่าเสียหายการผิดสัญญาจ้างได้ครับ

    ถ้าท่านไม่ได้รับความเป็นธรรมเกี่ยวกับกฎหมายแรงงาน ท่านสามารถร้องเรียนหรือร้องทุกข์ได้ ณ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด 76 จังหวัด หรือ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือร้องผ่านระบบ E-Service ของกรมได้ที่ https://www.labour.go.th/index.php/e-services หากท่านประสงค์สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎหมายแรงงาน ท่านสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่…กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ติดต่อได้หลายช่องทาง
    1. สายด่วนโทร 1506 กด 3
    2. สายด่วน 1546
    3. ติดติด สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด/ กรุงเทพฯ หมายเลขโทรศัพท์ จากเว็บไซต์ http://www.labour.go.th เมนูติดต่อกรม เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ที่ท่านทำงาน หรือจังหวัดของท่าน

    labourqa 361064

    เรียนคุณ Mm เรื่องค่าจ้างที่ลูกจ้างทำงานมาแล้วยังไงก็ต้องได้รับครับ แต่ต้องเป็นไปตามงวดการจ่ายค่าจ้างปกติของนายจ้างและตามวิธีปกติ เช่น นายจ้างคำนวณค่าจ้างจากการทำงานตั้งแต่วันที่ 26 ของเดือนที่ผ่านมา ถึงวันที่ 25 ของเดือนปัจจุบัน จ่ายค่าจ้างทุกวันสิ้นเดือนโดยการโอนผ่านธนาคารนั้น สมมุติว่าลูกจ้างทำงานมาถึงวันที่ 30 กันยายน 2565 แล้วลาออกเลย นายจ้างจะต้องจ่ายค่าจ้างรอบการทำงาน 26 สิงหาคม ถึง 25 กันยายน 2565 ในวันที่ 30 กันยายน 2565 และ วันที่ 26-30 กันยายน 2565 ต้องจ่ายวันที่ 31 ตุลาคม 2565 หากเลยวันดังกล่าวสามารถยื่นคำร้องทุกข์นายจ้างค้างจ่ายค่าจ้างพร้อมดอกเบี้ยได้ แต่การลาออกไม่ถูกต้องหากนายจ้างได้รับความเสียหายมีสิทธิ์ฟ้องเรียกค่าเสียหายการผิดสัญญาจ้างได้ครับ

    ถ้าท่านไม่ได้รับความเป็นธรรมเกี่ยวกับกฎหมายแรงงาน ท่านสามารถร้องเรียนหรือร้องทุกข์ได้ ณ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด 76 จังหวัด หรือ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือร้องผ่านระบบ E-Service ของกรมได้ที่ https://www.labour.go.th/index.php/e-services หากท่านประสงค์สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎหมายแรงงาน ท่านสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่…กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ติดต่อได้หลายช่องทาง
    1. สายด่วนโทร 1506 กด 3
    2. สายด่วน 1546
    3. ติดติด สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด/ กรุงเทพฯ หมายเลขโทรศัพท์ จากเว็บไซต์ http://www.labour.go.th เมนูติดต่อกรม เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ที่ท่านทำงาน หรือจังหวัดของท่าน

    in reply to: ขอคำปรึกษา #360947
    labourqa 360947

    เรียน คุณพรพิมล วรอุปถัมภ์
    ในกรณีที่ท่านยังไม่มีงานใหม่รองรับ สามารถขึ้นทะเบียนการว่างงานได้ที่สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด หรือช่องทางออนไลน์ที่ https://empui.doe.go.th/auth/index

    in reply to: ขอคำปรึกษา #360886
    labourqa 360886

    เรียน คุณเอ็กซ์ สุดถาวงษ์
    ท่านสามารถขอยื่นคำร้องได้ครับ กรณีที่นายจ้างขอลดเงินเดือนในช่วงโควิด จนกระทั่งสถานการณ์ดีขึ้น เงินเดือนท่านก็ไม่ได้เท่าเดิม
    และท่านเองก็ไม่สามารถบังคับให้นายจ้างเลิกจ้างท่านได้ เพราะนายจ้างต้องแบกภาระจ่ายค่าชดเชย ตัวท่านได้มีข้อโต้แย้งกับทางนายจ้าง ในเรื่องการขอลดเงินเดือน หรือมีการลงลายมือชื่ออนุญาตให้ลดเงินเดือนบ้างไหม หากมีการโต้แย้งเรื่องลดค่าจ้าง แต่นายจ้างยังลดค่าจ้างอยู่สามารถเรียกเงินคืนย้อนหลังได้ครับ
    ลูกจ้างสามารถร้องเรียนต่อพนักงานตรวจแรงงานในพื้นที่ ที่ลูกจ้างทำงาน กรณีท่านต้องการปรึกษา หรือร้องเรียน ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ของสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด / กรุงเทพฯ ได้จากเว็บไซต์กรม (www.labour.go.th)
    เมนู ติดต่อกรม เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่หรือจังหวัด ที่ท่านอาศัยอยู่ (ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-16.30 น.)

    in reply to: ขอคำปรึกษา #360885
    labourqa 360885

    เรียน คุณจัน
    หากท่านไม่ได้รับความยุติธรรมจากสภาพการจ้าง และสภาพการทำงาน
    ลูกจ้างสามารถร้องเรียนต่อพนักงานตรวจแรงงานในพื้นที่ ที่ลูกจ้างทำงาน กรณีท่านต้องการปรึกษา หรือร้องเรียน ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ของสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด / กรุงเทพฯ ได้จากเว็บไซต์กรม (www.labour.go.th)
    เมนู ติดต่อกรม เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่หรือจังหวัด ที่ท่านอาศัยอยู่ (ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-16.30 น.)

    in reply to: ขอคำปรึกษา #360884
    labourqa 360884

    เรียน คุณPM
    ผู้ว่าจ้างหรือนายจ้างนั้น เป็นหน่วยงานราชการหรือรัฐวิสาหกิจ หรือไม่ ตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พศ 2542 ถ้าหากใช่ ก็ไม่สามารถฟ้องบังคับได้
    กรณีท่านต้องการปรึกษา หรือร้องเรียน ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ของสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด / กรุงเทพฯ ได้จากเว็บไซต์กรม (www.labour.go.th)
    เมนู ติดต่อกรม เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่หรือจังหวัด ที่ท่านอาศัยอยู่ (ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-16.30 น.)

    in reply to: ขอคำปรึกษา #360883
    labourqa 360883

    เรียน คุณBest
    ลูกจ้างสามารถร้องเรียนต่อพนักงานตรวจแรงงานในพื้นที่ ที่ลูกจ้างทำงาน กรณีท่านต้องการปรึกษา หรือร้องเรียน ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ของสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด / กรุงเทพฯ ได้จากเว็บไซต์กรม (www.labour.go.th)
    เมนู ติดต่อกรม เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่หรือจังหวัด ที่ท่านอาศัยอยู่ (ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-16.30 น.)

    in reply to: ขอคำปรึกษา #360882
    labourqa 360882

    เรียน คุณหัวจะปวด
    สิทธิวันหยุดพักผ่อนประจำปี อาจเป็นการตกลงกันระหว่างนายจ้างและลูกจ้างได้ หรือนายจ้างสามารถจัดวันหยุดพักผ่อนประจำปีให้แก่ลูกจ้างได้ การใช้สิทธิวันหยุดพักผ่อนประจำปีขึ้นกับข้อบังคับของบริษัท ไม่ว่าระเบียบการแจ้งล่วงหน้าภายในกี่วัน และนายจ้างจะต้องอนุมัติการลานั้นได้ หากท่านต้องการปรึกษา หรือร้องเรียน ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ของสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด / กรุงเทพฯ ได้จากเว็บไซต์กรม (www.labour.go.th)
    เมนู ติดต่อกรม เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่หรือจังหวัด ที่ท่านอาศัยอยู่ (ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-16.30 น.)

    in reply to: ขอคำปรึกษา #360881
    labourqa 360881

    เรียน คุณJeangbud
    ความผิดฐานฉ้อโกง ถือเป็นความผิดที่ยอมความกันได้ ซึ่งหมายถึงผู้เสียหายและผู้กระทําความผิด สามารถเจรจาคืนทรัพย์สิน หรือชำระค่าเสียหายเพื่อยุติคดี แต่ยกเว้น “ความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน” ผู้เสียหายต้องดําเนินการแจ้งความ หรือฟ้องคดีภายในเวลา 3 เดือน นับตั้งแต่ทราบเรื่องและรู้ตัว ผู้กระทําผิด ไม่เช่นนั้น คดีจะขาดอายุความ

    in reply to: ขอคำปรึกษา #360880
    labourqa 360880

    เรียน คุณปฐมพงษ์
    ค่าบริหารสาขา ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าเป็นค่าจ้าง หรือสวัสดิการหรือไม่ การให้นี้มีเงื่อนไขหรือไม่ หากได้ประจำทุกเดือนโดยไม่มีเงื่อนไขถือว่าเป็นค่าจ้าง หากมีการหักส่วนนี้ออกไปถือว่าไม่เป็นคุณต่อลูกจ้าง สามารถยื่นคำร้องได้ และหากลูกจ้างปกปิดการทำงานที่ผิดพลาดเพื่อไม่ให้โดนตัดค่าบริหารสาขานี้ จะถือว่าเป็นการทำผิดวินัยร้ายแรงหรือไม่ ก็ต้องดูตามมาตรา 119 แห่งพรบ คุ้มครองแรงงาน พศ 2541 หากลูกจ้างคิดว่าไม่ได้กระทำความผิดร้ายแรงจริงสามารถยื่นคำร้องได้ครับ
    มาตรา 119 ได้บัญญัติยกเว้นให้ นายจ้างไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้างซึ่งเลิกจ้างในกรณีหนึ่งกรณีใด ดังต่อไปนี้
    (1) ทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้าง
    (2) จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย
    (3) ประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง
    (4) ฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน ระเบียบ หรือคำสั่งของนายจ้างอันชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม และนายจ้างได้ตักเตือนเป็นหนังสือแล้ว เว้นแต่กรณีที่ร้ายแรง นายจ้างไม่จำเป็นต้องตักเตือน โดยหนังสือเตือนให้มีผลบังคับได้ไม่เกินหนึ่งปีนับแต่วันที่ลูกจ้างได้กระทำผิด
    (5) ลูกจ้างละทิ้งหน้าที่เป็นเวลาสามวันติดต่อกัน ไม่ว่าจะมีวันหยุดคั่นหรือไม่ก็ตามโดยไม่มีเหตุอันสมควร
    (6) ลูกจ้างได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก
    ในกรณี (6) ถ้าเป็นความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษต้องเป็นกรณีที่เป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหาย
    ลูกจ้างสามารถร้องเรียนต่อพนักงานตรวจแรงงานในพื้นที่ ที่ลูกจ้างทำงาน กรณีท่านต้องการปรึกษา หรือร้องเรียน ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ของสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด / กรุงเทพฯ ได้จากเว็บไซต์กรม (www.labour.go.th)
    เมนู ติดต่อกรม เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่หรือจังหวัด ที่ท่านอาศัยอยู่ (ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-16.30 น.)

กำลังดู 15 ข้อความ - 16 ผ่านทาง 30 (ของทั้งหมด 384)
TOP