Skip to main content

labourqa

Forum Replies Created

กำลังดู 15 ข้อความ - 361 ผ่านทาง 375 (ของทั้งหมด 384)
  • Author
    Posts
  • labourqa 230696

    นายจ้างซึ่งประสงค์จะย้ายสถานประกอบกิจการหนึ่งแห่งใดไปตั้ง ณ สถานที่ใหม่หรือย้ายไปยังสถานที่อื่นของนายจ้าง ให้นายจ้างปิดประกาศแจ้งให้ลูกจ้างทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วันก่อนวันย้ายสถานประกอบกิจการ ตามมาตรา 120 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 และหากลูกจ้างคนใดเห็นว่าการย้ายสถานประกอบกิจการดังกล่าวมีผลกระทบสำคัญต่อการดำรงชีวิตตามปกติของลูกจ้างหรือครอบครัว และไม่ประสงค์ไปทำงาน ณ สถานประกอบกิจการแห่งใหม่ต้องแจ้งให้นายจ้างทราบเป็นหนังสือภายใน 30 วัน และให้ถือว่าสัญญาจ้างสิ้นสุดลงในวันที่นายจ้างย้ายสถานประกอบกิจการ โดยลูกจ้างมีสิทธิได้รับค่าชดเชยพิเศษไม่น้อยกว่าอัตราค่าชดเชยที่ลูกจ้างพึงมีสิทธิได้รับตามมาตรา 118 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 โดยท่านสามารถขอคำปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่กลุ่มงานคณะกรรมการสวัสดิการแรงงาน กองสวัสดิการแรงงาน โทรศัพท์ 0 2245 6774 หรือสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่หรือจังหวัดที่ท่านทำงานอยู่ หรือสายด่วน 1506 กด 3 และ 1546 ในวันเวลาราชการ และหากท่านไม่ได้รับสิทธิตามกฎหมายสามารถติดต่อเพื่อยื่นคำร้อง หรือยื่นคำร้องผ่านทางระบบออนไลน์ ที่ https://eservice.labour.go.th

    labourqa 230695

    การบอกเลิกสัญญาจ้าง นายจ้างหรือลูกจ้างอาจบอกเลิกสัญญาจ้างโดยการบอกกล่าวล่วงหน้าเป็นหนังสือให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบเมื่อถึงหรือก่อนจะถึงกำหนดจ่ายค่าจ้างคราวหนึ่งคราวใด เพื่อให้เป็นผลเลิกสัญญากันเมื่อถึงกำหนดจ่ายค่าจ้างคราวถัดไปข้างหน้าก็ได้ แต่ไม่จำเป็นต้องบอกกล่าวล่วงหน้าเกินสามเดือน ตามมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ดังนั้น หากลูกจ้างลาออกถูกต้องตามกฎหมายแล้ว นายจ้างมีหน้าที่จ่ายเงินต่าง ๆ ตามที่กฎหมายกำหนดให้แก่ลูกจ้าง โดยท่านสามารถขอคำปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่พนักงานตรวจแรงงาน สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่หรือจังหวัดที่ท่านทำงานอยู่ หรือสายด่วน 1506 กด 3 และ 1546 ในวันเวลาราชการ และหากท่านไม่ได้รับสิทธิตามกฎหมายสามารถติดต่อเพื่อยื่นคำร้อง หรือยื่นคำร้องผ่านทางระบบออนไลน์ที่ https://eservice.labour.go.th

    labourqa 230442

    1.หากประสงค์จะลาออกก็สามารถแจ้งลาออกได้เลยครับแต่ควรแจ้งลาออกล่วงหน้าไม่น้อยกว่าหนึ่งงวดการจ่ายค่าจ้างเพื่อให้นายจ้างได้เตรียมตัวหาลูกจ้างคนใหม่มาทำงานงานแทน แต่ค่าจ้างเดือนสุดท้ายจะได้รับตามกำหนดการจ่ายค่าจ้างเดิม
    2.ค่าจ้างค้างจ่ายของเดือนมิถุุนายน ท่านสามารถยื่นคำร้องต่อพนักงานตรวจแรงงานในพื้นที่ที่ท่านทำงาน หรือ ณ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานพื้นที่กรุงเทพมหานคร 1-10 หรือ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด
    3.หากประสงค์ฟ้องต่อศาลแรงงานก็สามารถทำได้สำหรับค่าจ้างค้างจ่ายเดือนมิถุนายน โดยไปพบนิติกร ศาลแรงงานกลางหรือศาลแรงงานภาคซึ่งเป็นเขตศาลที่สถานที่ทำงานของท่านตั้งอยู่ หรือสามารถร้องขอให้นิติกร สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานพื้นที่กรุงเทพมหานคร 1-10 หรือ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด หรือนิติกร กองนิติการ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเป็นทนายความฟ้องคดี ตามมาตรา ๘ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
    4.หรือท่านสามารถติดต่อกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานได้หลายช่องทางครับ
    4.1. สายด่วน 1546 (ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-16.30 น.)
    4.2. สายด่วน 1506 กด 3 (ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-16.30 น.)
    4.3. ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ของสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด / กรุงเทพฯ
    ได้จากเว็บไซต์กรม (www.labour.go.th) เมนู ติดต่อกรม เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่หรือจังหวัด
    ที่ท่านอาศัยอยู่ (ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-16.30 น.)
    4.4. ช่องทางการยื่นคำร้องออนไลน์ (24 ชม.) https://eservice.labour.go.th/

    labourqa 230262

    เรียน คุณอุทัยรัตน์
    การลดเงินเดือนถือเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างอย่างหนึ่งตามกฎหมายจะต้องได้รับความยินยอมจากลูกจ้าง เว้นแต่เป็นการเปลี่ยนที่เป็นคุณแก่ลูกจ้าง การที่นายจ้างเลิกจ้างแล้วไม่จ่ายเงินตามที่กฎหมายกำหนดหรือค่าชดเชยจากการเลิกจ้าง ให้ร้องเรียนต่อพนักงานตรวจแรงงานท้องที่ที่สถานประกอบกิจการตั้งอยู่ครับ ถ้ามีข้อสงสัยเพิ่มเติมให้ติดต่อสอบถามพนักงานตรวจแรงงาน โดยท่านสามารถติดต่อกรมได้หลายช่องทางครับ 1. สายด่วน 1546 (ในวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 8.30 – 16.30 น.) 2. สายด่วน 1506 กด 3 (ในวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 8.30 – 16.30 น.) 3. ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ของสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด/กรุงเทพฯ ได้จากเว็บไซต์กรม (www.labour.go.th) เมนู ติดต่อกรม เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่หรือจังหวัดที่ท่านอาศัยอยู่ (ในวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 8.30 – 16.30 น.) 4. ช่องทางการยื่นคำร้องออนไลน์ (24 ชม.) https://eservice.labour.go.th/

    labourqa 230146

    กรณีสถานประกอบกิจการได้รับผลกระทบจากโรคระบาดไวรัสโคโรนา ให้ติดตามมาตการการช่วยเหลือ หรือการเยียวยาจากรัฐบาลที่ออกมาเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการแต่ละกรณี เช่น การลดเงินสมทบส่งประกันสังคม การลดอัตราภาษี เป็นต้น สำหรับในส่วนของกระทรวงแรงงานถ้ามีมาตรการช่วยเหลือหรือเยียวยาจะแจ้งให้ผู้ได้รับผลกระทบทราบทันทีครับ

    in reply to: กรณีสลับวันทำงาน #229633
    labourqa 229633

    กรณีสลับวันทำงานและวันหยุด โดยไม่เป็นไปตามสถาพการจ้างและการทำงานเดิมของลูกจ้าง เป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างการทำงาน ต้องได้รับความยินยอมจากลูกจ้างก่อน กรณีดังกล่าวนายจ้างไม่สามารถเปลี่ยนได้โดยพลการ แนะนำให้ติดต่อยื่นคำร้องเรียนได้ที่ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้ที่ช่องทาง
    1) สายด่วน 1546
    2) สายด่วน 1506 กด 3 หรือ
    3) สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด/กรุงเทพ ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์จากเว็ปไซต์กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน http://www.labour.go.th (เมนู ติดต่อกรม) เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ที่ท่านทำงานหรืออาศัยอยู่ให้คำปรึกษาช่วยเหลือ หรือยื่นคำร้องผ่านระบบออนไลน์ ที่ http://s90.labour.go.th/e_request/login.php

    labourqa 228513

    การเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวต้องเป็นไปตามประกาศของ ศบค. ของแต่ละจังหวัด ที่จะเป็นผู้พิจารณากำหนดว่าสามารถเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวได้หรือไม่
    ซึ่งในการเคลื่อนย้ายแรงงานต่าวด้าวต้องยึดคำสั่ง ศบค ทั้งจังหวัดต้นทางและจังหวัดปลายทาง โดยท่านสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 1506 กด 5 คะ

    labourqa 227573

    เรียน คุณสุรพล
    หากนายจ้างจะลดเงินค่าจ้าง ต้องตกลงและได้รับความยินยอมจากลูกจ้าง หากลูกจ้างไม่ยอม และเมื่อครบกำหนดการจ่ายนายจ้างจ่ายไม่ครบ เมื่อลาออกลูกจ้างสามารถนำเอกสารหลักฐานไปประกอบการยื่นคำร้องต่อพนักงานตรวจแรงงานจังหวัด เพื่อให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ให้ต่อไปค่ะ

    labourqa 227560

    เรียน คุณลดา
    1. หากนายจ้างเลิกจ้างแต่ไม่จ่ายค่าชดเชยให้ยังสามารถดำเนินการเรียกร้องได้ ยังไม่หมดอายุความ
    2. หลังจากกลับเข้ามาทำงานได้อีกครั้งเมื่อแรกเข้าสภาพการทำงานต้องเป็นไปตามที่ตกลง นายจ้างไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างการทำงานได้หากลูกจ้างไม่ตกลงและยินยอม

    labourqa 227053

    เรียน คุุณปิยะธิดา
    การจ้างงานคนพิการกำหนดให้สถานประกอบกิจการซึ่งมีลูกจ้างตั้งแต่ 100 คนขึ้นไป รับคนพิการ ที่สามารถทำงานได้ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใด อัตราส่วนลูกจ้างที่ มิใช่คนพิการทุกหนึ่งคนร้อยคนต่อคนพิการหนึ่งคน เศษของหนึ่งร้อยคน ถ้าเกินห้าสิบคนต้องรับคนพิการเพิ่มอีกหนึ่งคน หากไม่จ้างสามารถส่งเงินสมทบเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการเป็นรายปี
    กรณีที่สถานประกอบกิจการมีลูกจ้าง ไม่ถึง 100 คน แต่มีความประสงค์จะจ้างคนพิการ สามารถกระทำได้ ซึ่งเป็นอำนาจของนายจ้าง ทั้งนี้อัตราค่าจ้างต้องไม่ต่ำกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำตามที่กฎหมายกำหนด

    labourqa 226738

    การฉีดวัคซีนต้องเป็นไปด้วยความสมัครใจของผู้รับวัคซีนโดยไม่อาจบังคับได้ เว้นแต่เพื่อการรักษาพยาบาลหรือเป็นมาตรการที่กฎหมายบังคับ กรณีนายจ้างไม่อนุญาตให้ลูกจ้างเข้าทำงานเนื่องจากลูกจ้าง
    สัมผัสหรือเกี่ยวข้องกับผู้ติดเชื้้อโดยการกักตัวเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดย่อมเป็นไปตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ซึ่งเป็นเหตุสุดวิสัยตามพรบ.ประกันสังคมฯ ลุกจ้างอาจได้รับสิทธิประโยชน์การขาดรายได้ตามสิทธิประโยชน์ที่ประกันสังคมกำหนด แต่กรณีลูกจ้างไม่ประสงค์ฉีดวัคซีนนายจ้างนำมาเป็นเหตุไม่อนุญาตให้เข้าทำงานนี้ ซึ่งเหตุนี้อาจจะถือเป็นเหตุเพื่อประโยชน์แห่งนายจ้างหรือเพื่อการควบคุมโรคตามกฎหมายที่เกี้่ยวข้อง จึงคำสั่งเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายแต่นายจ้างยังมีหน้าที่ต้องจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างเท่ากับวันทำงานตามปกติ

    in reply to: บริษัทหักเงินประกัน #226301
    labourqa 226301

    กรณีการที่นายจ้างเรียกหรือรับประกันหลักประกัน หากนายจ้างเลิกจ้างต้องคืนเงินประกันพร้อมดอกเบี้ยให้กับลูกจ้างภายในเจ็ดวันนับวันที่นายจ้างเลิกจ้าง หรือวันที่ลูกจ้างลาออก หรือวันที่สัญญาประกันสิ้นสุด ทั้งนี้หากนายจ้างไม่คืนให้ตามเวลาที่กำหนด สามารถยื่นคำร้องต่อพนักงานตรวจแรงงานสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด ที่ท่านทำงาน หรือ ที่สถานประกอบกิจการตั้งอยู่ อย่างไรก็ตามในช่วงแพร่ระบาด Covic 19 กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้อำนวยความสะดวกแก่ผู้รับบริการโดยสามารถยื่นคำร้องออนไลน์ผ่านทางลิ้งค์ http://eservice.labour.go.th// วีดีโอแนะนำการยื่นคำร้องออนไลน์ http://youtube.com/watch?v=XacJXnHWA8 หากมีกรณีสงสัยท่านสามารถสอบถามหรือ แจ้งขอมูลเพิ่มเติมให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบได้ที่ โทร. 02-0252468994 กลุ่มงานป้องกันและแก้ไขปัญหาแรงงาน ในวันและเวลาราชการ หรือผ่าน Line official กองคุ้มครองแรงงานตาม https://lin.ee/RwDD97Z

    in reply to: เงินค่าทำงานล่วงเวลา #225395
    labourqa 225395

    การทำงานล่วงเวลาเป็นการทำงานนอกหรือเกินเวลาทำงานปกติ ซึ่งหากนายจ้างมีคำสั่งให้ลูกจ้างทำงานล่วงเวลาและลูกจ้างยินยอม นายจ้างมีหน้าที่ต้องจ่ายค่าล่วงเวลาให้แก่ลูกจ้างในอัตรา 1.5 เท่าของค่าจ้างต่อชั่วโมง (การทำงานล่วงเวลาในวันทำงาน) หรือ 3 เท่าของค่าจ้างต่อชั่วโมง หากเป็นการทำงานล่วงเวลาในวันหยุด ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 61 และมาตรา 63 แห่ง พรบ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 และในการทำงานล่วงเวลานั้นลูกจ้างไม่จำเป็นต้องทำงานครบ 8 ชั่วโมงตามที่นายจ้างกล่าวอ้าง ดังนั้น หากนายจ้างให้ท่านทำงานล่วงเวลาตั้งแต่ เวลา 17.30-19.30 น. ท่านก็มีสิทธิได้รับค่าล่วงเวลาตามที่กฎหมายกำหนด

    labourqa 224056

    ตอบคำถามคุณ WC
    กรณีที่ 1 ค่าจ้างต้องจ่ายตามกำหนดที่ตกลงกัน ตามมาตรา 70 แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541
    หากเป็นการเลิกจ้างให้จ่ายภายใน 3 วันนับแต่วันเลิกจ้าง และเมื่อถึงกำหนดแล้วนายจ้างไม่จ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างนายจ้างจึงต้องเสียดอกเบี้ยให้แก่ลูกจ้างในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี
    กรณีที่ 2 การลาออกโดยไม่แจ้งบอกเลิกสัญญาล่วงหน้าตามมาตรา 17 แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน
    พ.ศ. 2541 อาจเป็นเหตุให้นายจ้างฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากลูกจ้างได้ แต่นายจ้างก็ยังมีหน้าที่จ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างตามกฎหมายค่ะ เนื่องจากเป็นสัญญาต่างตอบแทน

    labourqa 223882

    ตอบคำถามคุณหทัยรัตน์ หากลูกจ้างอยู่ในข่ายเป็นผู้ติดเชื้อหรืออาจจะติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ถือว่านายจ้างมีเหตุผลอันสมควร ซึ่งสอดคล้องกับมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด นายจ้างอาจมีคำสั่งให้ลูกจ้างไปตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้ แต่กรณีไม่มีความเสี่ยงดังกล่าวและลูกจ้างไม่ยินยอมเข้ารับการตรวจ ไม่มีกฎหมายให้อำนาจนายจ้างสามารถกระทำได้
    จึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและไม่เป็นธรรม

กำลังดู 15 ข้อความ - 361 ผ่านทาง 375 (ของทั้งหมด 384)
TOP